Tips เลือกสีทาฝ้าเพดานยังไง ให้ติดทนนาน ที่อ่านแล้วนำไปใช้ได้จริง

หลายคนที่กำลังทำบ้านใหม่อยู่ในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อะไรที่สามารถประหยัดได้ก็อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งนั้น อย่างเวลาจะเลือกสีทาฝ้า ก็อาจจะมีความลังเลว่า จะเอาสีทาบ้านมาใช้แทนได้ไหม แล้วถ้าซื้อสีทาฝ้ามาทาเอง จะมีวิธีในการเลือกใช้และการทาอย่างไร โดยในบทความนี้ ทาง TOA จะมาช่วยอธิบายความแตกต่างของสีทาบ้านและสีทาฝ้า รวมไปถึงกลเม็ดเคล็ดลับในการทาสีทาฝ้าเพดานอย่างไร จึงจะติดทนนาน พร้อมวิธีการคำนวณสีแบบมืออาชีพ ไม่ต้องง้อช่างมาฝากกันในบทความนี้ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

สีทาฝ้าคืออะไร?

หลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่าสีทาฝ้า คืออะไรกันแน่ มีลักษณะอย่างไร และมีจุดเด่นยังไงบ้าง พูดกันง่ายๆ เลยก็คือ สีทาฝ้า ก็คือ สีประเภทเดียวกับสีทางบ้านนี่แหละ ที่ว่ามีเฉดสีให้เลือกน้อยกว่ามาก เพราะจะเป็นเฉดสีที่เรียบๆ เช่น สีขาว และสีควันบุหรี่ โดยสีทาฝ้า จะมีความพิเศษอยู่ที่ฟิล์มพิเศษที่เคลือบอยู่ ซึ่งจะช่วยทำให้ฉาบยิปซั่มติดเพดานได้ง่ายขึ้น แถมยังมีลักษณะที่เรียบและไม่เป็นคลื่น เมื่อเทียบกับการใช้สีทาบ้านทั่วไปมาใช้แทนสีทาฝ้า 

รู้ไหม..? ถ้าใช้สีทั่วไปทาฝ้าเพดาน จะเกิดเรื่อง “การฟ้องงาน” ตามมา

“การฟ้องงาน” ในที่นี้ คือปัญหาที่เกิดจากการทาสีฝ้าเพดานแล้วดูไม่เรียบร้อย เงยหน้าขึ้นไปมองเมื่อไหร่ ก็จะเห็นเป็นรอยคลื่น ชวนให้หงุดหงิดใจ การฟ้องงานที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะช่างไม่มีฝือมือ แต่นี่แหละ คือผลพวงจากการใช้สีทั่วไปมาทาฝ้าเพดาน

สีทาฝ้าเพดาน กับสีทาบ้านทั่วไป ต่างกันอย่างไร?

สีทาบ้านทั่วไป จะมีฟิล์มสีที่มันเงา (Gloss) กึ่งเงา (Semi-gloss) และฟิล์มสีแบบด้าน (Matt) ซึ่งแม้จะด้านแต่ก็ยังแอบเงาอยู่นิดหน่อย แต่สีทาฝ้าเพดานนั้น จะมีฟิล์มสีแบบด้านพิเศษ (Super Matt) ช่วยลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อน และไม่มีความมันเงาใดๆ เมื่อใช้แล้วจะทำให้ฝ้าเพดานของคุณดูเรียบเนียนสวยเป็นผืนเดียวกันอย่างไรที่ติ

จำเป็นต้องทารองพื้นก่อนทาสีฝ้าหรือไม่

จริงๆ แล้วการทารองพื้นก่อนทาสีทาฝ้านั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะเป็นการกำจัดฝุ่นผงที่ติดอยู่ตามเพดาน และช่วยเพิ่มแรงยึดให้กับกับสีทาฝ้า ทำให้ทาแล้วสีไม่ลอกล่อน และทำให้สีติดทนนานมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องตามมาปวดหัวแก้ปัญหาในภายหลัง แต่ในบางกรณี เราอาจพบว่าช่างบางรายอาจเลือกทาสีรองพื้นก่อนทาสีทาฝ้าเฉพาะฝ้าในตัวอาคารเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การทารองพื้นก่อนก็นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด

แล้วอย่างนี้จะเลือก สีทาฝ้าเพดาน ยี่ห้อไหนดี?

ทีโอเอ มีสีทาฝ้าเพดานอยู่หลายเกรดหลายรุ่น ซึ่งทั้งหมดได้ถูกออกแบบมาให้มีฟิล์มสีที่ด้านเป็นพิเศษ เรามาดูกันดีกว่าว่า มียี่ห้ออะไรบ้าง

สีทาฝ้าเพดาน ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส (SuperShield Duraclean A+ for Ceiling)

สีทาฝ้าเพดาน ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส อยู่ในกลุ่มสีทาฝ้าเพดานกลุ่มพรีเมียม คุณภาพสูงสุด มีเนื้อฟิล์มที่ด้านเป็นพิเศษ ทำให้เมื่อทาแล้วเพดานดูสวยงามเหมือนเป็นผืนเดียวกัน จุดเด่นยืนหนึ่งเหนือสีทาฝ้าเพดานรุ่นอื่นๆ คือ สีทาฝ้าเพดาน ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส สามารถเข้าเครื่องผสมสี ทีโอเอ คัลเลอร์ เวิลด์ (TOA Color World) ที่มีเฉดสีให้เลือกกว่า 1,600 เฉดสีได้ 

ใครที่อยากได้สีห้องที่เป็นสีเดียวกันกลืนไปจนถึงฝ้าเพดาน ต้องรุ่นนี้รุ่นเดียวเท่านั้น แต่ๆๆ ก็ยังมีกลุ่มสียอดฮิตอย่างสีทาฝ้าเพดานสีขาว และสีทาฝ้าเพดานสีควันบุหรี่ให้เลือกซื้อแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้ หากต้องการสีทาฝ้าเพดาน ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส สีขาว บอกคนขายได้เลยว่า "ขอสีทาฝ้าเพดาน ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส สีขาว D777" ส่วนใครที่ต้องการสีควันบุหรี่ แจ้งคนขายได้เลยว่า "ขอสีทาฝ้าเพดาน ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส เบอร์ D888" ทั้ง 2 เฉดสีนี้เป็นแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้ ซื้อเสร็จแล้วเอากลับมาทาได้เลย!

• สีน้ำอะคริลิกแท้ 100% ชนิดด้านพิเศษ
  เกรดอัลตร้าพรีเมียม ยึดเกาะพื้นผิวแน่น
• สามารถลดการสะท้อนของแสงเป็นพิเศษ ปกปิดรอยต่อของฝ้าเพดานให้ดูเรียบเนียน
• มีเทคโนโลยี Air Detoxify ที่ช่วยขจัดสารก่อมะเร็ง (ฟอร์มาลดีไฮด์) ในอากาศได้ตลอด 24 ชม.
• ปลอดภัยจากสารระเหยเป็นพิษ VOCs (Nearly zero VOCs) ได้ผ่านมาตรฐานฉลากเขียวทั้งประเทศไทย และสิงคโปร์
• ช่วยยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อราได้ 99.99% ด้วยเทคโนโลยีจาก Microban ลิขสิทธิ์เฉพาะของ TOA
• แบรนด์เดียวในไทยและเอเชีย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล "Sensitive Choice" โดยสถาบันโรคหอบหืดแห่งประเทศออสเตรเลีย (National Asthma Council Australia) ว่า "ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และยังช่วยลดอาการภูมิแพ้จากสารฟอร์มาลดีไฮด์
• แบรนด์เดียวในไทยและอาเซียน ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล "French Emission Label" ซึ่งเป็นมาตรฐานจากประเทศฝรั่งเศส ได้ผลการทดสอบ A+ ว่าปลอดภัยสูงสุดจากการระเหยของสารพิษ ซึ่งทดสอบจากฟิล์มสีที่แห้งเเล้ว (VOCs บางประเภทสามารถระเหยต่อเนื่องแม้สีแห้งแล้ว การทดสอบ VOCs จากสีที่ยังไม่ได้ทาจึงอาจไม่พอ)
• เหมาะกับอาคารที่ต้องการผ่านมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) ทั้งอาคารเขียวของไทย (TREES) และสหรัสอเมริกา (LEED)

สีทาฝ้าเพดาน ทีโอเอ ชิลด์ วัน นาโน (TOA Shield-1 Nano for Ceiling)

สีทาฝ้าเพดาน ทีโอเอ ชิลด์ วัน นาโน อยู่ใน กลุ่มพรีเมียมคุณภาพสูง เป็นสีทาฝ้าเพดานที่มีเนื้อฟิล์มด้านพิเศษ สร้างเพดานที่เนียนสวยเป็นผืนเดียวกัน ฟิล์มสียึดเกาะดีเยี่ยม ผสมสารป้องกันเชื้อรา ปราศจากสารปรอทและสารตะกั่ว จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย สำหรับสีทาฝ้าเพดานสีขาว ของทีโอเอ ชิลด์ วัน นาโน จะใช้รหัส E777 และสีควันบุหรี่จะเป็นรหัส E999 ทั้ง 2 เฉดสีนี้เป็นแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้ ซื้อแล้วนำกลับไปทาที่บ้านได้เลยเช่นกัน

• สีน้ำอะคริลิกแท้ 100% ชนิดด้านพิเศษ
  เกรดพรีเมียมคุณภาพสูง ยึดเกาะพื้นผิวแน่น
• ฟิล์มสีชนิดด้านพิเศษ ช่วยลดแสงสะท้อนบนฝ้าเพดาน ให้การปกปิดรอยต่อของฝ้าเพดานได้ดี
• ด้วยสูตร "ชิลด์ เทคโนโลยี" จาก ทีโอเอ ที่ให้โมเลกุลฟิล์มสีขนาดเล็กเรียงตัวกันหนาแน่นเป็นพิเศษเกิดเป็นชั้นฟิล์มสีที่ให้คุณสมบัติในการปกป้องพื้นผิวได้ดีเยี่ยม ให้สีสวยสดใส ทนทานยาวนาน
• ผสมสารป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ
• ไม่ผสมสารปรอทและตะกั่ว จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย

สีทาฝ้าเพดาน โฟร์ซีซั่นส์ (4SEASONS Acrylic Emulsion Paint Ceiling)

สีทาฝ้าเพดาน โฟร์ซีซั่นส์ อยู่ในกลุ่มคุณภาพมาตรฐาน เป็นสีทาฝ้าเพดานที่มีเนื้อฟิล์มด้านพิเศษเช่นกัน จึงทำให้ฝ้าเพดานมีความเนียนสวย ไม่เป็นคลื่น เนื้อฟิล์มสียึดเกาะดีไม่แพ้ใคร มาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันเชื้อรา ไม่ผสมสารปรอทและสารตะกั่ว จึงปลอดภัยทั้งผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย หากต้องการสีทาฝ้าเพดานสีทาฝ้าเพดาน โฟร์ซีซั่นส์ สีขาว บอกคนขายได้เลยว่า "ขอสีทาฝ้าเพดานโฟร์ซีซั่นส์ สีขาว A7000" หากต้องการสีทาฝ้าเพดาน โฟร์ซีซั่นส์ สีควันบุหรี่ จะเป็นเบอร์ A8000 ทั้งสองเฉดสีนี้ก็เป็นแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้ ซื้อไปปุ๊บ เปิดทาได้ปั๊บ ง่ายสุดๆ

• สีน้ำอะคริลิกแท้ 100% คุณภาพสูง และทนทาน
• ฟิล์มสีด้านพิเศษ ช่วยลดการสะท้อนของแสงได้ดี
• ช่วยในการพรางตาในส่วนของรอยต่อฝ้าเพดาน ให้ดูเรียบเนียนเป็นผืนเดียวกัน ไม่เป็นคลื่น
• ฟิล์มสียึดเกาะดีเยี่ยม ผสมสารป้องกันเชื้อรา
• ไม่ผสมสารปรอทและสารตะกั่ว จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย

การเลือกสีทาฝ้าเพดาน ให้ห้องสวยตอบโจทย์ทุกความรู้สึก

แม้ว่าสีทาฝ้าเพดานจะมีสีหลักๆ อยู่ 2 สี คือ สีขาว และสีควันบุหรี่อย่างที่เรารู้กัน แต่บางครั้งมันก็เลือกได้ยากเหลือเกิน ถ้าเราไม่มีพ้อยต์อะไรบางอย่างมาตัดสิน ดังนั้น ลองมาเลือกสีทาฝ้าเพดานจากความต้องการ ความรู้สึก ที่อยากจะทำให้ห้องนั้นรู้สึกอย่างไรกันดีกว่า

ต้องการให้ห้องดูกว้าง สบายตา ไม่อึดอัด ใช้สีทาฝ้าเพดานสีขาว

สีทาฝ้าเพดานสีขาวจะช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง และยิ่งถ้าจัดบ้านแบบคลีนๆ มินิมอลด้วยแล้วจะยิ่งทำให้รู้สึกโล่งสบายตา เหมาะกับทุกๆ ห้อง โดยเฉพาะ ห้องนอน ห้องทำงาน และห้องสำหรับเด็ก เป็นต้น

ต้องการให้ห้องดูมีความเงียบสงบ ผ่อนคลาย ใช้สีทาฝ้าเพดานสีควันบุหรี่

การทาฝ้าเพดานสีควันบุหรี่จะช่วยคุมห้องให้รู้สึกถึงความสงบ ใช้เวลาพักผ่อนอยู่ได้นานอย่างสบายใจ เหมาะสำหรับทุกห้องที่ต้องการใช้สมาธิ หรือต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง เช่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องนอน ห้องพักผ่อน ห้องพระ เป็นต้น

สร้างบรรยากาศภายในห้องให้เย็นตา สบายใจ และเงียบสงบด้วยสีฟ้า

สำหรับใครที่อยากสร้างบรรยากาศภายในห้องให้เย็นตา สบายใจ และเงียบสงบแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าการทาฝ้าเพดานด้วยสีฟ้านั้น ก็เป็นวิธีการหนึ่ง ที่สามารถช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้แก่ห้องของคุณได้ เพราะการทาฝ้าเพดานด้วยสีฟ้านั้น หากนำมาใช้ร่วมกับเฉดสีอื่นๆ ก็จะช่วยให้ดูโมเดิร์นสวยงาม อย่างสีฟ้าตัดกับสีเทาอ่อน ก็เหมาะจะใช้กับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนของคนรุ่นใหม่ แต่โทนสีนี้ไม่เหมาะกับห้องครัว หรือห้องรับประทานอาหาร เพราะจะลดความอยากอาหารลงนั่นเอง

สร้างบรรยากาศสบายใจ ผ่อนคลาย ด้วยโทนม่วง

หากคุณกำลังอยากสร้างความรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายระหว่างที่อยู่บ้าน ลองเปลี่ยนมาทาฝ้าเพดานด้วยสีโทนม่วงดูนะ เพราะมันจะช่วยเยียวยาจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นสีโทนเย็นที่ดูสงบ เรียบง่าย ดูเคร่งขรึม เหมาะที่จะใช้เป็นสีทาฝ้าของห้องทำงาน และห้องนั่งเล่น แต่ไม่ควรเลือกใช้สีม่วงโทนที่เข้มมากเกินไปนัก ให้ใช้เป็นโทนอ่อนๆ ถึงจะดี แต่ไม่เหมาะกับห้องอาหาร เพราะโทนสีแห่งความเงียบสงบนั้น จะทำให้ไม่เจริญอาหาร

สร้างความอบอุ่นอ่อนโยน สดชื่นด้วยสีครีม

ถ้าคุณอยากเปลี่ยนบ้านให้ดูสดชื่น มีความอบอุ่นอ่อนโยน บอกเลยว่าต้องทาฝ้าเพดานด้วยสีครีม เพราะสีครีมนั้นสื่อถึงความมีอารมณ์ดีและเรียบง่าย แถมยังสื่อให้เห็นถึงความเป็นคนมีความสุขและเป็นมิตร เวลาอยู่ในห้องเพดานสีครีมจะรู้สึกตื่นเต้น เหมาะสำหรับห้องอ่านหนังสือ ห้องเรียน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว 

โทนสว่างสร้างความหรูหรา ร้อนแรง กระฉับกระเฉง ด้วยสีแดง

เติมความหรูหรา ร้อนแรง กระฉับกระเฉงให้แก่ห้องของคุณได้ไม่ยาก เพียงแค่ทาฝ้าเพดานด้วยสีแดง เพราะสีแดงนั้นเป็นสีของความร้อนแรง ดูกระฉับกระเฉง เห็นแล้วรู้สึกมีความสุข ความสนุกตื่นเต้น ทำให้จิตใจเบิกบานแจ่มใส  เหมาะสำหรับ ห้องกินข้าว ร้านอาหาร หรือจะใช้ทาห้องนั่งเล่นก็สามารถทำได้ เพราะสีแดงจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้นั่นเอง

สร้างลูกเล่นให้ห้องดูมีชีวิตชีวา ด้วยสีทูโทน

สร้างลูกเล่นให้ห้องมีชีวิตชีวาได้ไม่ยาก เพียงแค่ลองเปลี่ยนมาทาสีฝ้าเพดานด้วยสีทูโทนในเฉดสีเดียวกัน เพราะจะทำให้ห้องของคุณดูมีมิติและมีชีวิตชีวามากกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยคุณอาจทาสีชมพูทูโทนแบบลายขวาง หรือลายตารางสลับกันไป ห้องที่ได้จะดูน่ารักสไตล์บาร์บี้ หากเลือกใช้สีฟ้าตัดกับสีเขียว หรือเปลี่ยนมาใช้สีเหลืองตัดกับสีครีม ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสไตล์ทรอปิคอล แลดูคลาสสิก หรือใช้สีขาวกับสีดำ ห้องของคุณก็เป็นศิลปะโมเดิร์นอาร์ต สไตล์ลอฟต์ เหมาะสำหรับห้องทำงานและห้องนอน

การเลือกสีรองพื้น สำหรับงานทาสีฝ้าเพดาน

การทาสีฝ้าเพดาน ต้องมีการทารองพื้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยยึดเกาะพื้นผิวโดยเฉพาะฝ้าเพดานที่เป็นแผ่นยิปซั่ม โดยการเลือกสีรองพื้นนั้น สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบที่เป็น แบบใส และ แบบควิก

รองพื้นแบบใส คืออะไร

สีรองพื้นแบบใส ในที่นี้ก็คือ กลุ่มน้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า มีความโดดเด่นในเรื่องการยึดเกาะ สามารถแทรกซึมผ่านฟิล์มสีเดิมไปยึดเกาะกับแผ่นยิปซั่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า ทีโอเอ (TOA Contact Primer) และ โฟร์ซีซั่นส์ ซุปเปอร์ ไพรเมอร์ (4SEASONS Super Primer) 

รองพื้นแบบควิก คืออะไร

สีรองพื้นแบบควิก ในที่นี้ก็คือ กลุ่มสีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ที่มีเนื้อสีขาว อย่าง ทีโอเอ ควิก ไพรเมอร์ (TOA Quick Primer) และ โฟร์ซีซั่นส์ ควิก ไพรเมอร์ (4SEASONS Quick Primer) ที่นอกจากจะช่วยเรื่องการยึดเกาะแล้ว ยังมีข้อดีในเรื่องของกลิ่นที่อ่อน แถมเนื้อสีขาวนั้นจะช่วยทำให้ฟิล์มสีที่ทาฝ้าเพดานขึ้นโชว์เฉดสีได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

วิธีการคำนวณสี 1 ถัง สำหรับการใช้งาน

วิธีการคำนวณปริมาณสีทาฝ้าที่ต้องใช้นั้นไม่ยาก เพียงแค่คุณรู้พื้นที่ของฝ้าเพดานที่จะทาสี แล้วนำมาหารด้วย 35 จากนั้นคูณ 2 ก็จะทราบแล้วว่าต้องใช้สีทาฝ้ากี่แกลลอน เพราะสีทาฝ้า 1 แกลลอนจะสามารถทาได้ 35 ตารางเมตรพอดี แต่เราต้องทา 2 รอบ โดยเป็นการทารองพื้น 1 รอบ และการทาจริง 1 รอบ 

ยกตัวอย่าง เช่นเวลาจะทาฝ้า เราก็คำนวณสีที่ใช้ ด้วยการใช้สูตร พื้นที่ = กว้าง X ยาว  

หากฝ้าของคุณกว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร ก็จะต้องคิดเป็นพื้นที่ = 5 X 7 = 35 ตารางเมตร

จากนั้นนำมาเข้าสูตรคำนวณ จำนวนแกลลอนที่ต้องใช้ = พื้นที่ / 35 X 2

โดยห้องของคุณมีพื้นที่ 35 ตารางเมตร จะต้องใช้สี = 35 / 35 X 2 = 2 แกลลอน

ดังนั้น ห้องของคุณต้องใช้สีทาฝ้าทั้งหมด 2 แกลลอน ด้วยกันนั่นเอง

ขั้นตอนการทาสีทาฝ้าเพดาน คลิกอ่าน หรือกดย่อ ได้ที่นี่

• เตรียมพื้นผิว
  TIPS สำหรับมือใหม่ ฝ้าเพดานที่ติดตั้งเสร็จใหม่ๆ จะมีจุดที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือส่วนของรอยต่อแผ่นฝ้าเพดานที่มีการฉาบปิดรอยต่อเอาไว้ ให้ใช้กระดาษทรายขัดแต่งตรงส่วนของรอยต่อเหล่านี้ให้เรียบเนียนกลืนไปกับแผ่นฝ้าเพดานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
  
  จากนั้นทำความสะอาดให้ปราศจากเศษฝุ่นทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดสีลอกล่อนในอนาคต
  
  
• ทาสีรองพื้น 1 เที่ยว
  ไม่ว่าจะเป็นแบบใส หรือแบบควิก ให้เลือกตามความเหมาะสมของพื้นผิวฝ้าเพดานกันได้เลย จากนั้นทิ้งให้แห้งประมาณ 2 ชั่วโมง
  TIPS สำหรับมือใหม่ ตอนเริ่มทา ควรเริ่มด้วยการใช้แปรงทาตัดขอบ และทาตามมุมที่อยู่ใกล้โคมไฟ หลอดไฟ ต่างๆ เสียก่อน เพราะการใช้ลูกกลิ้งต่อด้ามทาทีเดียวอาจทำให้เปรอะเปื้อนตามขอบมุมหรือโคมไฟ หลอดไฟ
  
  
• ทาสีทับหน้า 2-3 เที่ยว
  เริ่มด้วยการใช้แปรงทาตัดขอบเช่นเดิม จากนั้นใช้ลูกกลิ้งต่อด้าม กลิ้งสีเป็นส่วนๆ จนเต็มพื้นที่ โดยแต่ละเที่ยวทิ้งให้แห้งประมาณ 2 ชั่วโมง

จะทาสีฝ้าเพดานทั้งที ใช้สีทาฝ้าเพดานดีๆ ไปเลย!

สีทาฝ้าเพดาน แม้จะไม่ได้แหงนมองกันบ่อยๆ แต่ถ้าหากใช้สีทั่วไปแทนสีทาฝ้าเพดานโดยเฉพาะก็อาจทำให้ฝ้าเพดานเกิดการฟ้องงาน มองผ่านๆ ดูรวมๆ ก็อาจเห็นเป็นคลื่นรอยต่อ ไม่สวยงาม แถมยังสะท้อนแสงไฟ ไม่สวยเอาเสียเลย เพราะปัญหาเหล่านี้นี่เอง ทีโอเอ จึงได้ออกแบบสีสำหรับทาฝ้าเพดานขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้บ้านของคุณ สวย ทน อยู่แล้วมีความสุขทุกเวลา

การดูแลรักษาที่ถูกวิธี หากฝ้าเลอะ หรือลอกล่อน

สำหรับใครที่อยากหาวิธีดูแลฝ้า เมื่อฝ้าของคุณเลอะหรือลอกล่อน สามารถแก้ไขได้ด้วยการคลุมเฟอร์นิเจอให้เรียบร้อย หากเอื้อมไม่ถึงเพดาน ให้ใช้เก้าอี้หรือบันไดช่วยต่อความสูงเพิ่มได้ แล้วค่อยๆ เช็ดล้างทำความสะอาด จากด้านล่างขึ้นไปด้านบน จากนั้นให้รีบเช็ดรอยน้ำให้แห้ง เพื่อป้องกันคราบไหลย้อน นอกจากนี้ เวลาที่คุณจะล้างน้ำเปล่าออก อยากให้เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ และไม่ควรใช้น้ำที่เปื้อนแล้วมาเช็ดซ้ำ โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งถูเบา จากนั้นนำน้ำยาทำความสะอาดเพดานมาผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา แล้วเทลงไปในขวดสเปรย์ เขย่าเบาๆ แล้วฉีดใส่เพดานพอหมาดๆ จากนั้นใช้ผ้ากดซับแทนเพื่อป้องกันการลอกล่อนของเพดาน ปิดท้ายด้วยการใช้ผ้าสะอาดซับน้ำออกให้ก็เรียบร้อยแล้ว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสีทาฝ้า (FAQ)

Q : เลือก สีทาฝ้าเพดานสีอะไรดี?

A : ทีโอเอ แนะนำ สีขาว และสีเทาควันบุหรี่ โดยเลือกสีสำหรับทาฝ้าเพดานโดยเฉพาะ เช่น สีทาฝ้าเพดานซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน, สีทาฝ้าเพดาน ทีโอเอ ชิลด์ วัน นาโน, สีทาฝ้าเพดาน โฟร์ซีซั่นส์ เป็นต้น

Q : สีรองพื้นฝ้าเพดาน เลือกอย่างไร?

A : ให้ดูที่วัสดุพื้นผิวของฝ้าเพดานเป็นหลัก ฝ้าเพดานปูน ฉาบใหม่ ใช้สีรองพื้นปูนใหม่ ฝ้าเพดานปูนเก่า ใช้สีรองพื้นปูนเก่า ฝ้าเพดานยิปซั่ม ใช้ได้ทั้งสีรองพื้นปูนเก่า และสีรองพื้นอเนกประสงค์

Q : ทาสีฝ้าเพดานเก่า ต้องทาสีรองพื้นไหม?

A : ยิ่งเป็นฝ้าเพดานเก่า ยิ่งต้องทาสีรองพื้น สามารถเลือกใช้ได้ทั้งสีรองพื้นปูนเก่า และสีรองพื้นอเนกประสงค์ ที่สำคัญอย่าลืมทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดหมดจดก่อนทาสีรองพื้น เพื่อลดการเกิดปัญหาสีหลุดล่อน

Q : น้ำรั่วลงฝ้าเพดาน แล้วสีพอง สามารถทาสีทาฝ้าทับได้เลยหรือไม่

A : ไม่ควรทาสีทาฝ้าทับทันทีหากมีน้ำรั่ว ควรทาสีรองพื้นปูนที่มีคุณสมบัติป้องกันความชื้น 1 เที่ยวก่อน จากนั้นจึงทาสีทับหน้า 2 เที่ยว จึงจะสามารถทาสีทาฝ้าทับได้

Q : ทาสีฝ้าแล้วแตกร่อน เกิดจากอะไร

A : ทาสีฝ้าแล้วแตกร่อน เกิดจากการไม่ได้ทาสีรองพื้น ยิ่งถ้าแผ่นฝ้ายิปซัมมีเศษฝุ่นผงแป้งยิปซัมเกาะอยู่ แล้วทาสีเลย จะทำให้สีที่ทาฝ้ายึดเกาะได้ไม่ดี เกิดปัญหาสีแตก หลุดล่อนตามมา

Q : หากสีไม่ตรงกับที่คิด แก้ไขอย่างไร

A : วิธีแก้ไขหากสีไม่ตรงกับที่คิดนั้นไม่ยาก เพียงแค่คุณขอสีตัวอย่างจากที่ร้านกลับมาลองทาดูก่อน หากสีที่ได้โดนแสงแล้วไม่ถูกใจ คุณจะได้สามารถเปลี่ยนไปลองเป็นสีอื่นๆ ต่อไปได้จนกว่าจะลงตัว