วิธียาแนวกระเบื้องห้องน้ำ ให้พื้นกระเบื้องสวย เรียบเนียน แบบมืออาชีพ วิธียาแนวกระเบื้องห้องน้ำ ให้พื้นกระเบื้องสวย เรียบเนียน แบบมืออาชีพ

วิธียาแนวกระเบื้องห้องน้ำ ให้พื้นกระเบื้องสวย เรียบเนียน แบบมืออาชีพ

มือใหม่หัดทำบ้านหลายๆ คนอาจจะคิดว่าการยาแนวกระเบื้องนั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพราะต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับยาแนวกระเบื้องมากมาย แถมยังกลัวว่ายาแนวออกมาแล้วจะไม่สวยเนี๊ยบเหมือนที่ช่างกระเบื้องทำ แต่ความจริงแล้ว การยาแนวกระเบื้องไม่ได้ยากอย่างที่คิด แถมยังสามารถทำเองได้ง่าย และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการช่างอีกด้วย ดังนั้น ทาง TOA จึงได้รวบรวมวิธียาแนวกระเบื้องห้องน้ำแบบง่ายๆ ให้พื้นกระเบื้องสวย และเรียบเนียนเหมือนมืออาชีพมาให้ทุกคนในบทความนี้แล้ว


ยาแนวกระเบื้องคืออะไร

ยาแนวกระเบื้องคืออะไร

ยาแนวกระเบื้อง คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเชื่อมรอยต่อแนวกระเบื้องเข้าด้วยกัน โดยจะมีลักษณะเป็นผงคล้ายกับผงปูนซีเมนต์ และเมื่อผสมเข้ากับน้ำ ก็จะมีลักษณะคล้ายกับกาว และเมื่อนำไปยาแนวกระเบื้องที่เป็นช่องว่าง ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอม เช่น น้ำ ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกต่างๆ แทรกเข้าไปในบริเวณใต้แผ่นกระเบื้องได้

ดังนั้น ยาแนวกระเบื้อง หรือกาวยาแนว จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการปูกระเบื้อง เพราะสามารถช่วยให้การปูพื้นกระเบื้องนั้นแลดูสะอาด มีความเรียบร้อย และสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของกระเบื้องได้นานมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถรองรับการยืดหยุ่นของกระเบื้อง และช่วยยึดติดกระเบื้องไม่ให้แตกหักออกจากกันได้ จึงทำให้พื้นกระเบื้องนั้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีความสวยงาม และใช้งานได้นาน


ประเภทของยาแนวกระเบื้อง


ประเภทของยาแนวกระเบื้อง

หลังจากรู้แล้วว่ายาแนวกระเบื้อง คืออะไร? ต่อไปเราจะไปทำความรู้จักกับประเภทของยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าแต่ละประเภทนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร และจะได้เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยยาแนวกระเบื้องนั้นมีทั้งหมด 7 ประเภท ดังนี้

ยาแนวแบบธรรมดา

ยาแนวกระเบื้องแบบธรรมดา เป็นยาแนวที่ใช้ในงานพื้น หรืองานผนังกระเบื้องทั่วไป และสามารถปิดรอยต่อระหว่างกระเบื้องได้ดี แต่ว่ายาแนวประเภทนี้จะไม่ป้องกันเชื้อรา จึงไม่เหมาะกับการใช้ยาแนวห้องน้ำ แต่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีความชื้น เช่น พื้นที่ภายในตัวอาคาร เป็นต้น

ยาแนวแบบป้องกันเชื้อรา


ยาแนวแบบป้องกันเชื้อรา

ยาแนวกระเบื้องแบบป้องกันเชื้อรา เป็นยาแนวที่มีการใช้งานในงานพื้น หรือผนังกระเบื้องทั่วไปเช่นกัน แต่ว่าจะมีสารที่ช่วยยับยั้ง และป้องกันการเกิดราดำ เช่น TOA พรีเมี่ยม เกร๊าท์ เป็นผลิตภัณฑ์ยาแนวกระเบื้องสูตรป้องกันเชื้อรา ที่มีสารช่วยป้องกันการเกิดราดำ และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย จึงสามารถใช้งานได้หลากหลายพื้นที่ เหมาะกับการยาแนวห้องน้ำ และพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษอีกด้วย

ยาแนวกระเบื้องร่องเล็ก


ยาแนวกระเบื้องร่องเล็ก

ยาแนวกระเบื้องร่องเล็ก เป็นยาแนวที่เหมาะกับการใช้งานกับกระเบื้องแผ่นใหญ่ หรือกระเบื้องที่ต้องปูชิดกันมากๆ เพราะว่ายาแนวประเภทนี้จะมีเนื้อเนียนละเอียด และมีความเหลวกว่ายาแนวทั่วไป เพื่อให้ยาแนวสามารถแทรกซึมไปตามร่องขนาดเล็กของกระเบื้องได้ดีขึ้น อย่างเช่น TOA พรีเมี่ยม เกร๊าท์ พลัส เป็นผลิตภัณฑ์ยาแนวกระเบื้องร่องเล็กที่มีการยึดเกาะ และความคงทนสูง ถึงแม้ร่องกระเบื้องจะเล็กเพียง 0.2-3 มิลลิเมตร ก็สามารถไหลตัวได้ดี แถมยังมีสารป้องกันเชื้อรา ราดำ และแบคทีเรียอีกด้วย

ยาแนวกระเบื้องร่องใหญ่

ยาแนวกระเบื้องร่องใหญ่ เป็นยาแนวที่มีเนื้อหยาบพิเศษ และมีความข้นเหนียวกว่าปกติ เพื่อจะได้ปิดรอยต่อร่องกระเบื้องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเหมาะกับการใช้งานกับกระเบื้องที่ต้องเว้นช่องว่างขนาดใหญ่ หรือกระเบื้องที่หดตัวได้ง่าย อย่างกระเบื้องดินเผา เป็นต้น

ยาแนวกระเบื้องแบบทนแรงดันน้ำ

ยาแนวกระเบื้องแบบทนแรงดันน้ำ เป็นยาแนวชนิดพิเศษที่สามารถทนแรงดันน้ำได้ดี และทนต่อการกัดกร่อนของคลอรีน เพราะว่ายาแนวประเภทนี้จะใช้ในงานพื้น หรือผนังที่มีแรงดัน หรือแรงกดอัดสูง เช่น สระว่ายน้ำ บ่อน้ำ สปา หรือซาวน่า เป็นต้น

ยาแนวกระเบื้องอีพ็อกซี่

ยาแนวกระเบื้องอีพ็อกซี่ เป็นยาแนวที่มีคุณภาพสูง และมีราคาสูงกว่ายาแนวประเภทอื่นๆ เพราะว่ามีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นได้เป็นอย่างดี แถมยังมีความทนทานต่อความร้อน และสารเคมี ที่มีคุณสมบัติเป็นกรดและด่างได้ดีเยี่ยม ซึ่งยาแนวประเภทนี้จะต้องให้ช่างที่มีประสบการณ์ หรือมีความชำนาญเป็นผู้ทำเท่านั้น จึงเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความคงทนสูง หรือต้องดูแลความสะอาดมากเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

สียาแนวกระเบื้อง


สียาแนวกระเบื้องมีกี่สี

หลายๆ คนจะคุ้นเคยกับยาแนวสีขาวหรือสีเทา แต่ในปัจจุบันยาแนวมีสีให้เลือกใช้หลากหลายเป็นอย่างมาก เช่น สียาแนวกระเบื้องของ TOA ที่มีทั้งสีขาว สีครีม สีฟ้า สีเทา และสีดำ เพื่อให้ทุกคนสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์สีกระเบื้องกับสียาแนวให้เข้ากันมากที่สุด ทำให้พื้นบ้านหรือพื้นอาคารนั้นดูสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการจับคู่สียาแนวกระเบื้องให้เข้ากัน มีดังนี้

  • ยาแนวสีขาว หรือสีอ่อน เป็นสียาแนวที่ทำให้เห็นถึงคราบต่างๆ ได้ง่าย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเน้นความสะอาด เพราะสามารถเห็นสิ่งสกปรกที่ติดอยู่และกำจัดออกได้อย่างรวดเร็ว
  • ยาแนวสีดำ หรือสีเข้ม เป็นสียาแนวที่ใช้แล้วจะทำให้พื้นกระเบื้องดูโมเดิร์น โดดเด่น และมีสไตล์มากขึ้น แต่ว่ามองเห็นสิ่งสกปรกได้ยาก และอาจเกิดการสะสมของฝุ่นได้
  • ยาแนวสีเดียวกับกระเบื้อง เป็นสียาแนวที่จะช่วยให้พื้นนั้นดูเรียบ และสบายตามากขึ้น เพราะว่าสียาแนวนั้นกลมกลืนไปกับกระเบื้อง
  • ยาแนวสีตัดกับกระเบื้อง เป็นสียาแนวที่ตัดกับกระเบื้อง ทำให้พื้นดูมีมิติ และมีลูกเล่นมากขึ้น เช่น กระเบื้องสีดำ แต่ใช้ยาแนวสีขาว เป็นต้น

วิธียาแนวกระเบื้องแบบง่ายๆ


วิธียาแนวกระเบื้องแบบง่ายๆ แค่ 6 ขั้นตอน

หลังจากทุกคนได้รู้ว่ายาแนวคืออะไร มีกี่ประเภท และมีสีอะไรบ้าง ต่อไปเรามาดูวิธีการยาแนวแบบง่ายๆ ที่จะช่วยให้พื้นกระเบื้องดูเรียบร้อย และสวยงามเหมือนจ้างมืออาชีพมาทำให้ โดย 6 วิธียาแนวกระเบื้องเอง ที่ทุกคนสามารถทำตามได้ มีดังนี้

1. เตรียมอุปกรณ์ยาแนวกระเบื้อง

ขั้นตอนแรกในการยาแนวกระเบื้อง คือ เตรียมอุปกรณ์ยาแนวกระเบื้อง เพื่อในระหว่างที่กำลังยาแนวกระเบื้องอยู่นั้นจะได้ไม่ต้องลุกไปหยิบของบ่อยๆ นั่นเอง โดยอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นมีเพียงไม่กี่อย่าง และสามารถหาได้ง่าย ดังนี้

  • ยาแนวกระเบื้อง
  • ถ้วยผสม หรืออุปกรณ์สำหรับผสมยาแนว
  • ถุงมือยาง
  • เกรียงยางปาดยาแนว
  • ที่ขูดยาแนวกระเบื้อง (ใช้มีดแทนได้)
  • ฟองน้ำ
  • ผ้าแห้ง

2. ทำความสะอาดกระเบื้อง

ขั้นตอนต่อไปในการยาแนว คือ การทำความสะอาดกระเบื้อง โดยใช้ที่ขูดยาแนวกระเบื้อง หรือใช้มีดขูดไปตามร่องกระเบื้อง พร้อมกับปัดฝุ่นผงเหล่านั้นออกไปให้หมดจด เพื่อกำจัดคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่ในร่องกระเบื้อง บนกระเบื้อง และช่วยให้ยาแนวติดนาน คงทน และไม่หลุดง่าย

3. ผสมยาแนวกระเบื้อง

หลังจากทำความสะอาดกระเบื้องเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการผสมยาแนวกระเบื้อง โดยผสมยาแนวกับน้ำในสัดส่วนที่ได้ระบุไว้ข้างถุง หรือตามคำแนะนำ อย่างเช่น ยาแนวกระเบื้อง ทีโอเอ พรีเมี่ยม เกร๊าท์ 1 ถุง (1 กิโลกรัม) ควรผสมกับน้ำสะอาด 0.32-0.37 ลิตร พร้อมกับคนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเหนียวข้นเหมือนครีม และทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ก่อนจะค่อยคนผสมอีกครั้งก่อนนำไปใช้งาน ซึ่งในระหว่างใช้งานก็ควรคนผสมเป็นระยะๆ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ยาแนวเหนียวข้น เพราะทิ้งไว้นานเกินไป ถ้าหากยาแนวข้นจนเกินไปก็ห้ามเติมน้ำเพิ่มอย่างเด็ดขาด เพราะประสิทธิภาพของยาแนวจะลดลง ดังนั้น จึงควรเทอันเดิมทิ้ง และผสมใหม่จะดีที่สุด

4. ลงมือปาดยาแนวกระเบื้อง

เมื่อผสมยาแนวกระเบื้องจนพร้อมใช้งานแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มขั้นตอน ที่เราจะได้ลงมือปาดยาแนวกระเบื้องกัน โดยตักยาแนวที่ผสมแล้วปาดลงไปที่ร่องกระเบื้อง และปาดทำมุมประมาณ 45 องศา พร้อมกับใช้เกรียงยางปาดให้เรียบ และปาดส่วนที่ติดอยู่บนกระเบื้องออกให้มากที่สุด เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด

5. ทิ้งยาแนวให้เซตตัว 24 ชั่วโมง

หลังจากปาดยาแนวกระเบื้องจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทิ้งยาแนวให้เซตตัวประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนทำความสะอาด เพื่อให้ยาแนวนั้นแข็งตัว และป้องกันไม่ให้ยาแนวนั้นหลุดติดมากับอุปกรณ์ทำความสะอาด ถ้าหากไม่รอให้ยาแนวแห้ง หรือเซตตัวดี อาจทำให้ยาแนวหลุดล่อนได้ง่าย ไม่เต็มร่องกระเบื้อง ไม่เรียบร้อย ไม่สวยงาม และอาจทำให้อายุการใช้งานน้อยลงอีกด้วย

6. ทำความสะอาดอีกครั้ง

เมื่อรอจนครบ 24 ชั่วโมง หรือยาแนวเซตตัวดีแล้ว ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาด และเช็ดยาแนวส่วนเกินหรือส่วนที่ติดอยู่บนกระเบื้องออก ทำซ้ำๆ จนกว่ายาแนวส่วนเกินจะออกไปหมด และหลังจากนั้นให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบยาแนว หรือคราบน้ำที่เหลือให้สะอาดอีกครั้ง เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะได้พื้นกระเบื้องที่ยาแนวสวยงามเหมือนกับมืออาชีพมาทำให้แล้ว

 

หากอยากให้กระเบื้องมีอายุการใช้งานที่นาน และทนทาน ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยาแนวกระเบื้องที่มีคุณภาพได้มาตราฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากระเบื้องโก่ง ระเบิด รวมทั้งเลือกคุณสมบัติให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากต้องการปูกระเบื้องในห้องน้ำ ควรเลือกยาแนวห้องน้ำที่ป้องกันเชื้อรา ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เพื่อสุขลักษณะที่ดีของคนในบ้าน

เคล็ดลับการยาแนวกระเบื้องด้วยตนเอง


เคล็ดลับการยาแนวกระเบื้องด้วยตนเอง

สำหรับวิธียาแนวกระเบื้องนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เพราะว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่เพื่อประสิทธิภาพในการยาแนวกระเบื้องที่ดี TOA จะมาแชร์เคล็ดลับในการยาแนวกระเบื้องด้วยตัวเอง ดังนี้

ขูดยาแนวเดิมออกให้ลึกเท่าแผ่นกระเบื้อง

เป็นขั้นตอนที่จะต้องทำการขูดยาแนวเดิมที่มีอยู่ออกให้หมด โดยทำการพรมน้ำลงไปที่บริเวณยาแนว เพื่อให้ยาแนวขูดง่ายขึ้น พร้อมกับขูดออกให้ลึกเท่ากับแผ่นกระเบื้อง และเช็ดทำความสะอาดนำฝุ่นของยาแนวเดิมให้หมดจด เพื่อเป็นการทำความสะอาดพื้นผิวเดิมให้มีความสะอาด และเรียบเนียนมากที่สุด

ยาแนวไล่ไปทีละแถว

เป็นขั้นตอนที่จะต้องทำการยาแนวกระเบื้องไปทีละแถว และทีละแนว โดยอาจจะเริ่มจากการยาแนวกระเบื้องในแนวนอน หรือแนวตั้งก่อนก็ได้ แต่จะต้องค่อยๆ ไล่ยาแนวไปทีละแถว เพื่อให้ยาแนวกระเบื้องนั้นมีความเสมอกัน เรียบเนียน ดูสวยงาม และมีความติดแน่นมากยิ่งขึ้น

เช็ดทำความสะอาดคราบยาแนวทันที

เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการยาแนวกระเบื้องด้วยตัวเอง โดยจะต้องทำการเช็ดทำความสะอาดยาแนวกระเบื้องที่เปื้อน หรือเป็นส่วนเกินออกมาจากบริเวณร่องกระเบื้อง ด้วยการใช้ฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาดเช็ดไปที่ผิวกระเบื้อง หลังจากนั้นให้เช็ดด้วยผ้าแห้งสะอาดอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการยาแนวกระเบื้อง

การดูแลรักษาให้ยาแนวทนทานอยู่ได้นาน


การดูแลรักษาให้ยาแนวทนทานอยู่ได้นาน

ถึงแม้ว่ายาแนวกระเบื้องนั้นจะมีคุณสมบัติที่มีความทนทาน และมีอายุการใช้งานนาน แต่ว่าก็สามารถยืดอายุการใช้งานออกไปได้อีก ด้วยวิธีการดูแลรักษายาแนวกระเบื้องให้อยู่ได้นานมากขึ้น ดังนี้

ทำความสะอาดกระเบื้องห้องน้ำ และยาแนวด้วยด่างอ่อนๆ เป็นประจำ 

เป็นวิธีที่จะต้องทำความสะอาดกระเบื้องห้องน้ำ หรือพื้นกระเบื้องในบริเวณต่างๆ ด้วยน้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ เช่น ผงฟอกขาว หรือน้ำยาล้างพื้นที่มีความเป็นด่าง โดยทำการผสมผงฟอกขาว หรือน้ำยากับน้ำสะอาด เพื่อนำไปขัดถูบริเวณผิวกระเบื้อง และยาแนวกระเบื้อง หลังจากนั้นให้เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด และเช็ดตามด้วยผ้าแห้งสะอาดอีกครั้ง เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรก หรือคราบดำฝังลึก

หลังการอาบน้ำ ควรทำความสะอาดห้องน้ำ และทำให้ห้องน้ำแห้งเสมอ

เป็นวิธีที่จะต้องทำการเช็ดบริเวณพื้นผิวกระเบื้องภายในห้องน้ำหลังจากการอาบน้ำทุกครั้ง รวมถึงจะต้องทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำ เพื่อให้ภายในห้องน้ำนั้นแห้งอยู่เสมอ และเมื่อห้องน้ำแห้งสนิท ก็จะทำให้ไม่มีความชื้นในบริเวณพื้นผิวกระเบื้อง และยาแนวกระเบื้อง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานมากขึ้น

ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดร่องยาแนว

เป็นวิธีที่จะต้องทำความสะอาดบริเวณร่องยาแนวด้วยน้ำยาทำความสะอาดร่องยาแนว ด้วยการใช้น้ำยาทำความสะอาดร่องยาแนวเทลงไปในบริเวณร่องยาแนว ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงใช้แปรงทำความสะอาด หรือแปรงสีฟันเก่าขัดไปในบริเวณที่เทน้ำยาลงไป เพื่อเป็นการขัดคราบสิ่งสกปรกให้หลุดออกมา หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ร่องยาแนวดูสะอาด และมีอายุการใช้งานนานมากยิ่งขึ้น

เปลี่ยนร่องยาแนวใหม่ทุกๆ ปี เพื่อป้องกันเชื้อโรค และสิ่งสกปรก 

เป็นวิธีที่จะต้องทำการเปลี่ยนยาแนวกระเบื้องภายในร่องยาแนวทุกๆ ปี ด้วยการขูดยาแนวกระเบื้องเดิมทิ้ง และยาแนวกระเบื้องใหม่ เพื่อช่วยป้องกันเชื้อโรค ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา คราบดำฝังลึก และสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ยาแนวกระเบื้องดูสะอาดสะอ้าน เรียบร้อย และดูใหม่อยู่ตลอดเวลา

คำถามที่พบบ่อย

ถึงแม้ว่าการยาแนวกระเบื้องจะมีเพียงไม่กี่ขั้นตอน และสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่ว่ามือใหม่หลายๆ คนก็อาจจะยังมีข้อสงสัยที่ไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้ที่ไหน ดังนั้น ทาง TOA จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับการยาแนวที่พบบ่อย ดังนี้

ยาแนวกระเบื้องต้องทิ้งไว้กี่ชั่วโมง

หลังจากยาแนวกระเบื้องเรียบร้อยแล้ว ควรทิ้งไว้ไม่ให้โดนน้ำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง  เพื่อให้ยาแนวนั้นเซตตัว และแข็งตัวดีก่อน ถ้าหากทำความสะอาดยาแนวทันที หรือยาแนวโดนน้ำหลังทำเสร็จ อาจทำให้ยาแนวหลุดล่อน ไม่เต็มร่องกระเบื้อง และมีประสิทธิภาพลดลงได้

ยาแนวกระเบื้อง 1 ถุง สามารถใช้ได้กี่ตารางเมตร

โดยปกติยาแนวกระเบื้อง 1 ถุง สามารถใช้ได้มากถึง 5 ตารางเมตร แต่ว่าจะขึ้นอยู่กับขนาดร่องกระเบื้อง และขนาดของกระเบื้อง ดังนั้น ยาแนวกระเบื้อง 1 ถุงจะสามารถใช้ได้กี่ตารางเมตรนั้น จะต้องดูถึงลักษณะการใช้งาน และประเภทของยาแนวนั้นๆ ด้วย

เลือกยาแนวกระเบื้องยี่ห้อไหนดี

สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ยาแนวกระเบื้องยี่ห้อไหนดี ให้เริ่มจากการเลือกตามลักษณะการใช้งานก่อน หลังจากนั้นค่อยมาดูว่ามียี่ห้อไหนหรือแบรนด์ใดบ้าง โดยเลือกยี่ห้อที่สามารถเชื่อถือได้ และได้รับการรับรองคุณภาพ เช่น TOA ที่มียาแนวกระเบื้องให้เลือกใช้หลากหลายประเภท หลากหลายสี และมีคุณภาพสูง เป็นต้น


42120 Views