TOA คว้ารางวัล Thailand's Most Admired Brand 2021 แบรนด์สีอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคต่อเนื่องเป็นปีที่ 10

TOA คว้ารางวัล Thailand's Most Admired Brand 2021 แบรนด์สีอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคต่อเนื่องเป็นปีที่ 10

คุณภาพของสินค้าที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยนวัตกรรมรวมถึงการมีสินค้าที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้ง่ายตอบโจทย์รูปแบบการก่อสร้างใหม่ๆ และโดนใจผู้บริโภค เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ TOA ประสบความสำเร็จและได้รับการโหวตให้เป็น แบรนด์สีอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค Thailand’s Most Admired Brand 2021 ในหมวดวัสดุก่อสร้าง (กลุ่มสีทาภายใน/ภายนอก) ติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 รวมถึงได้รับรางวัลพิเศษในกลุ่มนวัตกรรม (Innovation) ร่วมด้วย

คุณจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงปัจจัยความสำเร็จของ TOA ว่า “ปัจจัยหลักที่ทำให้เราได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคมาจากคุณภาพ ของสินค้า โดยเฉพาะหากผู้ใช้ที่เป็นโครงการจะทราบดีว่า สินค้าของเรามีคุณภาพมาก รองลงมาก็คือเรื่องของการเข้าถึง สินค้าเราได้ง่าย เพราะ TOA มีดีลเลอร์อยู่ทั่วประเทศกว่า 6,000 ราย ตัวสินค้าของเราก็ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งในเรื่อง ของสีทาภายในและภายนอก นอกจากนั้นเรามีทีม Technical Service ค่อนข้างใหญ่ รวมถึงเราเองมีการปรับตัวตาม ตลาดที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา อย่างที่ผ่านมาจะเห็นว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของเรา คือการที่เรานำเทคโนโลยีเครื่องผสมสี (TOA Color World) เข้ามาใช้ ทำให้สินค้าประเภทพรีเมี่ยมขยายตัวค่อนข้างมาก นั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคมากขึ้น”

ที่ผ่านมา TOA มีการปรับตัวตามรูปแบบการก่อสร้างที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของการปรับสูตรสีและเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการปรับวิธีการขายเพื่อให้สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การนำเสนอสินค้าที่เป็นเคมีก่อสร้าง ซึ่งเป็นสินค้าที่ล้อไปกับสี เพราะมองว่าคุณภาพของการฉาบปัจจุบันแตกต่างจากในอดีต จึงเริ่มขยายสินค้าที่ออกมาตอบโจทย์ วิธีการก่อสร้างมีการเปลี่ยนไปมากขึ้น

“การก่อสร้างแบบใหม่ เรามองเห็นแล้วว่ามีการใช้ระบบ Precast เข้ามามากขึ้น เราจึงต้องปรับให้เข้ากับระบบ เหล่านั้น นี่คือสิ่งที่เรามีมากกว่าคู่แข่งซึ่งทำให้เราก้าวมาสู่การขายสินค้าที่ไม่ใช่แค่สี แต่เป็นเรื่องของ Solution มากกว่า เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของการก่อสร้างที่ใช้สินค้าหลากหลายเกรดกับสีของเรา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาภายหลัง เป็นการแก้ Pain Point ตรงนี้

“เมื่อต้นปีที่แล้ว เราโปรโมทเรื่องของยิปซั่มเพื่อให้คนทราบว่าเรามีสินค้ายิปซั่มด้วย นอกจากนี้ต้องยอมรับว่า เวลาคน นึกถึง TOA จะนึกถึงแต่สี แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาเรามาเน้นสินค้าที่เป็นเคมีก่อสร้าง ซีเมนต์เบสเพิ่มขึ้น และทำหนังโฆษณาที่ใช้ แมวเข้ามาเป็นตัวแทนสื่อสารถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบ้านซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี”

โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คุณจตุภัทร์ มองว่า แม้ TOA จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็ต้องมีการปรับวิธีการทำตลาดและการสื่อสารให้เน้นไปที่ช่องทางดิจิทัลมากขึ้นเพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

“เราปรับมาใช้ Facebook และ YouTube ในการสื่อสารมากขึ้น เพื่อเข้าถึง End User ดิจิทัล ทำให้เราสามารถ สื่อเรื่องราวได้อย่างหลากหลาย เรามีการทำคอนเทนต์ Why TOA ซึ่งเป็นการสื่อสารให้เห็นว่า ทำไมคนถึงเลือกใช้ TOA สมัยก่อนสีจะเป็นเพียงสินค้าสำหรับปกปิดพื้นผิว ในส่วนของโฆษณาเราจึงเน้นเรื่องของความทนทาน แต่ตอนนี้เรา พยายามสื่อสารว่าสีเป็นอะไรที่เราสามารถนำไปใช้เองได้ ผู้บริโภคสามารถซื้อสีไปทาเอง ปรับปรุงบ้านเอง ซึ่งคนส่วนมาก แรกๆ มักไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เราก็ทำเซอร์วิสที่จะออกมาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้เขาว่า หากต้องการปรับปรุงเปลี่ยนสีบ้าน ใหม่ต้องทำอย่างไร กับอีกส่วนคือทำคอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคเห็นว่าทำอะไรได้บ้าง เป็นไอเดียที่เราทำขึ้น และลูกค้าสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของเรา เพราะเรามองเห็นว่ามีบ้านเก่าที่อายุเกิน 30 ปี ต้องการรีโนเวทซึ่งมี อยู่เป็นจำนวนมาก ตรงนี้จะสร้างโอกาสในการขายได้”

สำหรับเรื่องนวัตกรรม ยังถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้แบรนด์ TOA เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น “TOA FireShield” สีกันไฟ สูตรน้ำ ที่ถูกออกแบบมาเพื่องานโครงสร้างอาคารที่ทำจากเหล็ก เช่น เสา คาน หลังคา ของโรงงาน และ สถานีรถไฟฟ้า โดยเมื่อเกิดเพลิงไหม้ สีกันไฟ TOA FireShield จะพองตัวออกเป็นชั้นโฟม ทำหน้าที่เป็นฉนวนเพื่อป้องกันความร้อนจากเปลวไฟไม่ให้กระทบกับโครงสร้างเหล็กโดยตรง ช่วยป้องกันและชะลอการพังถล่มของอาคารจากเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการทดสอบแล้วว่าทนไฟได้นานกว่า 2 ชม. ตามมาตรฐาน ISO 834 ที่ผ่านการรับรองประสิทธิภาพจากศูนย์ทดสอบมาตรฐานระดับสากลในต่างประเทศ

การ D.I.Y ผนังห้อง..ด้วยสีลอฟท์เท่ๆ ก็เป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคกำลังนิยมทำในช่วง Work from home ที่มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น โดยในปีนี้ TOA Loft มีซีรีส์ใหม่ TOA Loft Metallic ซึ่งมีทั้งสี Copper ดิบเท่ และสี Silver สีเงินสุดคูล ที่ทำให้การตกแต่งผนังเปลี่ยนไป มีความสนุก สวย เท่ ไม่ซ้ำใคร เจ้าของบ้านสามารถสามารถลงมือทำได้จริง

รวมทั้งในปีที่ผ่านมา กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้บริโภค Concern เรื่องของสุขอนามัยมากขึ้น เราจึงได้ทำการศึกษาและพัฒนา ‘นวัตกรรมสีทาบ้านภายใน New Normal มาตรฐานใหม่ เพื่อช่วยปกป้องจากไวรัสในตระกูลโคโรนาได้สำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย’ โดยมีการสื่อสารถึงประสิทธิภาพของอนุภาค Silver Nano Technology ที่มีอยู่ในสีทาภายในของ TOA อยู่แล้ว ตั้งแต่แบรนด์สี SuperShield Duraclean A Plus, SuperShield Duraclean, TOA Shield-1 Nano, สีทนได้ สี 4SEASONS รวม 12 รุ่น ด้วยกลไกการทำงานของแร่เงินจำนวนมาก จะส่งประจุอิออน 1+ จึงทำหน้าที่เข้าดักจับ ยับยั้ง และกำจัดไวรัสตระกูลโคโรนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว จากผลการทดสอบกับ Porcine Coronavirus (Porcine epidemic diarrhea virus; PEDV) โดยคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล

ทั้งยังมีคุณสมบัติเศษอื่นๆ อาทิ เทคโนโลยี Air Detoxify ช่วยขจัดสารก่อมะเร็ง (ฟอร์มาลดีไฮด์) อากาศภายในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง, ช่วยยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อราได้สูงสุดถึง 99.99% ด้วยเทคโนโลยีจาก Microban, U.S.A. ซึ่งต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีใหม่ จะมาพร้อมต้นทุนที่แพงขึ้น สินค้าหลายตัวเราจึงต้องรอให้ตลาดสามารถรองรับสินค้าได้แล้วเราถึงจะลอนช์ออกมา”

 

หากถามถึงความท้าทายของปีที่แล้ว ซึ่งหลายๆ ธุรกิจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน คุณจตุภัทร์ มองว่า ความ ท้าทายอยู่ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากโดยเฉพาะการทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งซึ่งมาเร็วกว่าที่คิด

“ช่องทางดิจิทัลมาเร็วกว่าที่คิดไว้ 3-5 ปี เราจึงหันมาใช้โฆษณาทางดิจิทัลมากขึ้น อย่างปีที่แล้วเราใช้ Line ของร้านค้าเพื่อทำกิจกรรมโดยตรงกับช่างและผู้รับเหมา ตรงนี้ก็เป็นส่วนที่เปลี่ยนไป ตอนนี้เราทำแคมเปญร่วมกับ TikTok คือ ตัวโฆษณา “สีทนได้ สี 4Seasons” โดยให้คนมาทำคลิปล้อไปกับโฆษณาสีทนได้ ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นตัวที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำเราได้มากขึ้น การสื่อสารผ่านออนไลน์จะเป็นส่วนที่เราทำมากขึ้นในอนาคต เพราะสินค้าของเรามีค่อนข้างมาก ในอดีตเราอาจจะสื่อสาร ได้ไม่ครบ เราจึงหันมาใช้ส่วนของออนไลน์มากขึ้น”

คุณจตุภัทร์ เสริมว่าทิศทางการทำตลาดของ TOA จะใช้ดิจิทัลมากขึ้น โดยเน้นเรื่องของ WHO Service “เพราะสินค้าของเราค่อนข้างไกลตัวผู้บริโภคจึงต้องให้ความรู้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น เราจะใช้นวัตกรรมใหม่กับทั้งเรื่องของสินค้า และการสื่อสาร ทุกวันนี้ทุกคนพยายามนำเสนอ Solution เหมือนกันหมด แต่เราค่อนข้างยูนีค เพราะเรามองว่าอนาคตเซลส์ของเรา จะไม่ได้แค่ไปจดออร์เดอร์ตามร้านค้า แต่ต้องวิ่งเข้าไปเซอร์วิสเรื่องพวกนี้ด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงใช้จุดแข็งที่มีเซลส์ทีมอยู่ ทั่วประเทศเข้าไปเซอร์วิส อันนี้น่าจะเป็นจุดแข็งของเราที่ต่างกับคนอื่น อีกส่วนคือเราต้องทำ MEGA PAINT Warehouse ไปพร้อมกับ WHO Service เพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า ‘TOA ไม่ได้มีแค่เรื่องของสี’

ปีนี้ตลาดน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนของเราเองเราก็ต้องทำแบรนด์ให้คนเชื่อถือ จดจำ ให้คนเข้าใจว่าเรามีสินค้าหลากหลาย เมื่อมีการก่อสร้างเราก็จะนำสินค้าที่ตอบโจทย์ออกมาขายมากขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องให้ความรู้ผู้บริโภค สม่ำเสมอเพื่อให้ถึงเวลาที่เขาต้องใช้สินค้าเขาจะนึกถึงเรา”

อย่างไรก็ตาม การรักษาความเป็นที่หนึ่ง ยังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ TOA ซึ่งคุณจตุภัทร์ มองว่าปัจจัยที่จะทำให้ TOA รักษาความเป็นเบอร์หนึ่งได้ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับผู้บริโภค โดยพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพอยู่เสมอ รวมถึงการปรับตัวรับกับความต้องการของตลาดและฟังเสียงลูกค้าซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ที่มา

นิตยสาร : BrandAge ฉบับวันพฤหัสบดี 1 – ศุกร์ 30 เมษายน 2564

คอลัมน์ : Innovation Brand Award: TOA ผสานนวัตกรรมที่เป็นมากกว่าสีตอบโจทย์ผู้บริโภคแบบ Total Solution