สีผนังลอกล่อนเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขยังไง

สีผนังร่อน นับว่าเป็นปัญหากวนใจของผู้อยู่อาศัยหลายๆ คน ที่นอกจากจะทำให้บ้านดูไม่สวยแล้ว ยังทำให้ดูเก่ากว่าอายุการใช้งานจริงอีกด้วย และถึงแม้ว่าเจ้าของบ้านได้ลองทาสีใหม่หรือแก้ปัญหาทาสีซ้ำไปกี่รอบ สีบนผนังก็กลับมาลอกเป็นแผ่นตามเดิม งานนี้เล่นเอาเจ้าของบ้านปวดหัวกันเป็นแถวๆ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหานี้ เราจะขอพาคุณไปอ่านข้อมูลดีๆ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณหมดปัญหาสีลอกล่อน ด้วยวิธีซ่อมสีผนังลอกตามแบบฉบับมืออาชีพ!

สีผนังลอกล่อน คืออะไร?

ปัญหาน่าปวดหัวสำหรับเจ้าของบ้านหลายๆ คนที่มักพบเจออย่างสีผนังลอกล่อน เรียกได้ว่าสร้างความกังวลใจให้ไม่น้อย เพราะทำให้ผนังบ้านดูเก่า โทรม ไม่สวยงาม ซึ่งสีร่อนเกิดจากผนังบ้านหรือผนังอาคารที่ได้ทาสีไว้ เกิดอาการสีโป่งพองขึ้นเป็นนูนๆ โดยในบางกรณีสีผนังอาจหลุดร่อนออกมาเป็นแผ่นเล็กๆ และหากเอานิ้วไปสัมผัสก็จะมีลักษณะเหมือนฝุ่นชอล์กติดมือกลับมา ซึ่งถ้าทิ้งไว้ไม่ทำการซ่อมแซมแล้วล่ะก็จะทำให้สีหลุดล่อนออกมาขนาดใหญ่ ส่งผลให้เนื้อปูนหลุดออกมาด้วย เท่ากับว่ายิ่งทำให้ผนังเสียหายมากยิ่งขึ้น  

สีผนังร่อนเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?

หากคุณมีปัญหาสีผนังร่อน ก่อนการซ่อมแซมจำเป็นต้องตรวจสอบก่อนว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งสาเหตุของสีลอกเป็นแผ่นจะแบ่งออกเป็นดังนี้

• เสื่อมสภาพเพราะความชื้น: สีร่อนเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งความชื้นจากใต้ดิน น้ำฝน ห้องน้ำภายในบ้าน ชายคา หรือบริเวณที่ติดกับสนามหญ้า ถือว่าปัจจัยหลักที่ทำให้สีบนผนังเกิดการโป่งพอง และสีเกิดหลุดล่อนออกเป็นแผ่นๆ และอาจลามไปถึงการเกิดเชื้อราบนผนังได้ด้วย
• สีหลุดเป็นแผ่นเพราะความเก่า: สำหรับบ้านที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี อาจจะเกิดกรณีสีลอกล่อนได้ ตามคุณภาพของสีที่เลือกใช้นั่นเอง
• สีร่อนเพราะคุณภาพของสีที่เคยใช้: การเลือกสีทาผนังที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน หรือมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะกับกับการทาผนัง ก็อาจจะทำให้สีที่ทานั้นมีอายุการใช้งานที่สั้น และทำให้เกิดการหลุดลอกได้ง่ายกว่าปกติ
• สีร่อนเพราะการเตรียมผิวผนังไม่ดี: หากข้ามขั้นตอนทาสีรองพื้นไป และทำการลงสีทาบ้านทันทีหลังฉาบผนังเสร็จ จะทำให้ประสิทธิภาพของสีทาบ้านลดลง เนื่องจากไม่มีตัวช่วยยึดเกาะจากสีทารองพื้นนั่นเอง

วิธีซ่อมผนังลอกล่อน ที่เก่า และชื้นแบบง่ายๆ ให้กลับมาสวยเหมือนใหม่

ในการเนรมิตผนังที่มีปัญหาเรื่องสีลอกล่อนให้กลับมาสวยเหมือนทาใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้วิธีซ่อมสีผนังลอกที่ถูกต้อง พร้อมเลือกใช้วัสดุสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติในการช่วยเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งหากใครอยากรู้ว่าสีผนังลอกแก้ยังไง ก็ตามมาดูกันได้เลย

1. ทำความสะอาดพื้นผิว

วิธีซ่อมสีผนังลอกแบบมืออาชีพในขั้นตอนแรก ให้เริ่มจากการเตรียมพื้นผิวผนังให้มีความพร้อมก่อนลงสี โดยเริ่มจากใช้เกรียงขูดสีเก่าออกให้ได้มากที่สุด หรือใช้ค้อนกับไขควงปากแบน ในการกะเทาะสีเก่าออกให้หมดก็ได้เช่นกัน จากนั้นให้ทำการเจียด้วยเครื่องขัดหน้าผิวคอนกรีต เพื่อเป็นการเปิดหน้าผิว และให้ทำความสะอาดโดยการใช้แปรงปัดเศษฝุ่นผงออกจากบริเวณผนัง

2. เสริมความแข็งแรงด้วยน้ำยารองพื้น

เมื่อเอาสีเก่าออกหมดแล้ว คุณจะต้องเตรียมพื้นผิวให้มีความแข็งแรง เพื่อเพิ่มการยึดเกาะของสีทาบ้าน ด้วยการใช้สีทารองพื้นให้ตรงตามคุณสมบัติที่ต้องการ ดังนี้

● สีร่อนเพราะสีเก่าให้ใช้น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า

สำหรับปัญหาสีร่อนที่เกิดจากความเก่าของตัวบ้าน หรือสีหมดอายุการใช้งาน คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า ทีโอเอ ที่ผลิตจากอะคริลิกเรซินชนิดพิเศษ ทาลงพบผนังให้ทั่วทั้งหมด ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์นี้มีลักษณะเป็นกาวใส ไม่มีผงสี ลดปัญหาสีลอกล่อนเป็นฝุ่นชอล์กได้ดี แถมเนื้อน้ำยารองพื้นยังซึมลึกผ่านชั้นสีเก่าได้จริง ทำให้ช่วยเพิ่มการยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น

● สีร่อนจากความชื้นใช้น้ำยารองพื้นปูนกันความชื้น

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ทีโอเอ มอยส์เจอร์ การ์ด ในการซ่อมสีผนังลอกที่เกิดจากความชื้น (ใช้ได้ทั้งทาทับสีเก่า และผนังใหม่) ให้ทาลงบนผนังให้ทั่ว และทิ้งไว้ให้แห้ง 3-4 ชั่วโมง คุณสมบัติของน้ำยารองพื้นชนิดนี้จะช่วยป้องกันการร่อนตัวของสี และป้องกันความชื้นที่ขึ้นมาจากพื้นดินได้เป็นอย่างดี มีลักษณะเป็นเนื้อสีขาว แทรกซึกลงผิวผนังได้ดี เพราะผลิตจากสารผสมประเภทโมดิฟายด์ไซเลน ไซล็อกเซน

ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อน้ำยารองพื้นที่ทาไปแล้วแห้งสนิท คุณยังสามารถเสริมความแข็งแรงให้ผนังด้วยผลิตภัณฑ์ ทีโอเอ เอ็กซ์ตร้าเว็ท ไพรเมอร์ โดยการทาลงไปให้ทั่วผนัง 1 เที่ยว และทิ้งให้แห้งประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งการทาทีโอเอ เอ็กซ์ตร้าเว็ท ไพรเมอร์ เป็นการระบายความชื้นของผนัง ป้องกันความชื้น ทำให้ผนังหายใจได้ ลดการโป่งพองของสี หรือปัญหาผนังชื้นสีลอกได้ดี

3. ขัดปรับแต่งพื้นผิว

เพิ่มความเรียบเนียนในการซ่อมสีผนังลอกล่อนด้วยการตกแต่งพื้นผิวด้วย ทีโอเอ 102 ดี โค้ท สีทารองพื้นเนื้ออะคริลิกสำเร็จรูป เนื้อครีมสีขาว ช่วยปกปิดรอยร้าวเล็กๆ รูฟองอากาศ รูพรุนเม็ดทราย สำหรับจุดไหนที่พื้นผิวไม่เรียบมากๆ ให้ทำการฉาบทับได้ 2-3 รอบ และปล่อยให้แห้ง จากนั้นให้ใช้กระดาษทรายขัดสกิมโค้ท ทำการขัด เพื่อปรับผิวผนังให้เรียบมากยิ่งขึ้น และทำความสะอาดฝุ่นผงออกให้หมดก่อนทาสีทับหน้าในลำดับถัดไป

4. ใช้สีทาทับหน้าให้ตรงกับการใช้งาน

หลังจากผิวผนังแห้งแล้ว คุณสามารถลงสีทาทับหน้าได้ตามปกติ โดยแบ่งการทาเป็น 2 เที่ยว ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ไม่ให้เกิดปัญหาสีร่อน พร้อมเพิ่มอายุการใช้งานของสีให้คงทน ทาง TOA ได้เตรียม 3 ผลิตภัณฑ์สีทาทับหน้าที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะดีเยี่ยม ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

หลังจากที่ได้ลงรองพื้น และทำการขัดปรับแต่งผิวแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การลงสีทาทับหน้า ซึ่งสีทาทับหน้าจะถูกแบ่งออกเป็น สีทาภายนอกและสีทาภายใน และคุณจำเป็นที่ต้องเลือกให้ถูกประเภทเพื่อให้เนื้อสีและประสิทธิภาพของสีทำงานได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ TOA อยากแนะนำจะมีทั้งหมดด้วยกัน ดังนี้