15 ไอเดียแต่งห้องนั่งเล่นให้สวย มีสไตล์ พร้อมเทคนิคการเลือกสี 15 ไอเดียแต่งห้องนั่งเล่นให้สวย มีสไตล์ พร้อมเทคนิคการเลือกสี

15 ไอเดียแต่งห้องนั่งเล่นให้สวย มีสไตล์ พร้อมเทคนิคการเลือกสี

ห้องนั่งเล่นถือว่าเป็นหัวใจของบ้าน เพราะเป็นห้องที่สมาชิกครอบครัวจะมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่งทำงานของคุณพ่อ พื้นที่สำหรับเล่นของลูกๆ ห้องรับแขกของคุณแม่ หรือเป็นห้องดูทีวีในวันหยุดของทุกคน ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญในการตกแต่ง แต่จะแต่งห้องนั่งเล่นอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ คนได้ หรือควรจะเลือกใช้สีอะไร บทความนี้มีคำตอบให้!

ห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมอล

1. ห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมอล

การตกแต่งห้องนั่งเล่นแบบมินิมอลนั้น เน้นที่ความน้อยแต่มาก นั่นก็คือการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ทุกชิ้นล้วนมีประโยชน์ใช้สอยในตัว เช่น โต๊ะข้างโซฟา ที่เป็นได้ทั้งโต๊ะและมีลิ้นชักเก็บของ เป็นต้น และการใช้สีที่อ่อนโยน เช่น สีขาวหรือสีพาสเทล ทำให้ห้องแลดูอบอุ่น และให้บรรยากาศสบายๆ การตกแต่งห้องนั่งเล่นแบบมินิมอลจึงทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นได้ แม้จะอยู่ในพื้นที่จำกัดก็ตาม

ห้องนั่งเล่นสไตล์ Luxury

2. ห้องนั่งเล่นสไตล์ Luxury

ห้องนั่งเล่นสไตล์ Luxury นั้น เน้นการตกแต่งที่ทำให้ดูหรูหรา หากห้องนั่งเล่นของคุณมีพื้นที่มากอยู่แล้วก็เป็นเรื่องง่ายที่จะตกแต่งในสไตล์นี้ แต่หากพื้นที่ในห้องนั่งเล่นมีจำกัด ก็ไม่ต้องกังวลใจ คุณสามารถตกแต่งห้องด้วยสไตล์ Luxury ได้เช่นเดียวกัน โดยเน้นเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับที่ทำจากวัสดุที่ดูหรูหรา เช่น โลหะสีทอง กระจก หรือผ้าที่มีเนื้อสัมผัสหรือลวดลายที่ดูหรูหรา เท่านี้ก็จะได้ห้องนั่งเล่นแบบ Luxury ที่ดูสวยแพงแล้ว

ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์น

3. ห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์น

ห้องนั่งเล่นแบบโมเดิร์น เป็นอีกสไตล์การตกแต่งที่เน้นประโยชน์ใช้สอยภายในห้อง และสร้างบรรยากาศที่ดูเรียบหรูให้กับห้องนั้นๆ ได้ นิยมตกแต่งด้วยโทนสีสบายตา เช่น สีขาว สีดำ หรือสีเทา โดยสามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น โซฟาที่ปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ หรือตู้เก็บของแบบ Built-in เป็นต้น

ห้องนั่งเล่นสไตล์เกาหลี

4. ห้องนั่งเล่นสไตล์เกาหลี

สำหรับใครที่ชื่นชอบซีรีส์จากแดนกิมจิก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับห้องนั่งเล่นสไตล์เกาหลี ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นด้วยการใช้โทนสีขาว หรือครีม และแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เพียงไม่กี่ชิ้น เช่น การใช้ตู้ไม้เรียบๆ หรือฉากไม้ฉลุกั้นสัดส่วนภายในห้อง นอกจากนี้ อาจเพิ่มแจกันเซรามิกสีขาว และดอกไม้ ก็จะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้องนั่งเล่นสไตล์เกาหลีได้เป็นอย่างดี

ห้องนั่งเล่นสไตล์มูจิ

5. ห้องนั่งเล่นสไตล์มูจิ

การตกแต่งสไตล์มูจิได้รับอิทธิพลมาจากแนวคิดของศาสนาพุทธนิกายเซน จึงมุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติ และความเรียบง่าย หรือการตกแต่งที่ใช้โทนสีที่ไม่ฉูดฉาด เช่น สีขาว สีน้ำตาล หรือสีครีม ร่วมกับการใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งที่มีความเป็นธรรมชาติ เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ผ้าลินิน หรือต้นไม้ที่มีใบขนาดเล็ก เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ห้องนั่งเล่นสไตล์มูจิ ที่เสริมบรรยากาศผ่อนคลายในช่วงเวลาพักผ่อนแล้ว

ห้องนั่งเล่นสไตล์นอร์ดิก

6. ห้องนั่งเล่นสไตล์นอร์ดิก

การแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์นอร์ดิกหรือสไตล์สแกนดิเนเวีย เป็นการตกแต่งที่เน้นความโปร่ง โล่ง เพดานสูง  มีหน้าต่างหลายบาน เพื่อให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ โทนสีที่นิยม คือ สีขาว เทา หรือดำ เฟอร์นิเจอร์และของประดับมักทำจากไม้ ผ้า หรือโลหะ มีรูปทรงที่ชัดเจน และเน้นฟังก์ชันการใช้งาน

ห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจโมเดิร์น

7. ห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจโมเดิร์น

การตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจโมเดิร์น เป็นการผสมผสานความเก่าและใหม่ให้เข้ากัน เป็นการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหวนนึกถึงอดีตแบบวินเทจ แต่ก็เน้นประโยชน์การใช้งานแบบโมเดิร์น โดยสามารถเลือกใช้สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรือสีที่ดูสบายตา เช่น สีครีม หรือสีเขียว และตกแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ที่ดูย้อนยุค เช่น เครื่องเสียงเก่า หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ก็จะทำให้คุณได้ห้องนั่งเล่นวินเทจโมเดิร์นที่ดูกลมกลืนกันอย่างลงตัว

ห้องนั่งเล่นสไตล์เรียบหรู

8. ห้องนั่งเล่นสไตล์เรียบหรู

การตกแต่งห้องนั่งเล่นให้ดูหรูหรา ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้พื้นที่กว้าง หรือเพดานสูงเสมอไป โดยหากต้องการแต่งห้องนั่งเล่นให้ดูหรูได้นั้น สามารถเริ่มต้นจากการคุมโทนสีให้ดูขรึม หรือดูลึกลับ เช่น การใช้โทนสีน้ำเงินเมทัลลิก หรือสีเขียวเข้มปีกแมลงทับ ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากกำมะหยี่ หรือเลือกใช้โซฟาแบบบุนวม นอกจากนี้ อาจเพิ่มความแกรนด์ด้วยของตกแต่งที่มีความเงาวาวจากโลหะ หรือกระจกร่วมด้วย 

ห้องนั่งเล่นแบบ Open Air

9. ห้องนั่งเล่นแบบ Open Air

ห้องนั่งเล่นแบบ Open Air คือ ห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่ง แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือนอกจากตัวอาคารบ้านเสมอไป ห้องนั่งเล่นแบบ Open Air อาจจะอยู่ใต้อาคารหรือหลังคาบ้าน แต่มีด้านหนึ่งที่เปิดโล่งออกไปให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ โดยอาจเลือกติดกระจกใส เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ หรือการใช้ไม้ระแนง และเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพื่อให้เข้ากับสวนด้านข้างบ้านก็ได้เช่นกัน

ห้องนั่งเล่นสีทูโทน

10. ห้องนั่งเล่นสีทูโทน

ห้องนั่งเล่นสีทูโทน คือ การตกแต่งโดยเน้นใช้สีหลักเพียง 2 สีเท่านั้น เช่น การใช้โทนสีเขียว-ทอง หรือสีขาว-ดำ เป็นต้น โดยการใช้สีหลักนั้นอาจจะมีลูกเล่นที่การไล่ระดับสี และเน้นเฟอร์นิเจอร์และของประดับที่มีสีตัดกัน เพื่อให้เกิดความโดดเด่น ดึงดูดสายตา โทนสีที่ใช้ควรเป็นสีแนวอบอุ่น หรือสีเข้มที่ดูเคร่งขรึม เพื่อให้คุมโทนได้ง่าย ทั้งยังเป็นโทนสีที่เหมาะแก่การพักผ่อนอีกด้วย

img src="https://www.toagroup.com/storage/products/solutions/toa-home-idea-painting/living%20room%20decor%20ideas/11.jpg" alt="ห้องนั่งเล่นลายหินอ่อน" width="100%" height="100%" />

11. ห้องนั่งเล่นลายหินอ่อน

การตกแต่งห้องนั่งเล่นลายหินอ่อน ไม่จำเป็นต้องใช้หินอ่อนธรรมชาติมาตกแต่งก็ได้ เพราะสามารถติดวอลเปเปอร์บนผนัง ปูพื้นด้วยกระเบื้อง หรือใช้สีทำพื้นลอฟท์ลายหินอ่อนก็ได้เช่นกัน เพื่อให้เกิดความหรูหรา ทั้งนี้รายละเอียดการตกแต่ง เช่น เฟอร์นิเจอร์หรือของประดับ ควรเลือกให้เข้ากับโทนสีของผนังหินอ่อน เช่น หากใช้ผนังโทนสีเทา-ดำ อาจเลือกของตกแต่งคุมโทนเข้มขรึม ให้ภาพรวมออกมาดูเรียบหรู หรือหากผนังเป็นโทนสีขาว หรือสีสว่าง อาจเลือกใช้ของประดับที่มีสีทอง เพื่อเพิ่มความหรูหราเข้าไปอีก

mg src="https://www.toagroup.com/storage/products/solutions/toa-home-idea-painting/living%20room%20decor%20ideas/12.jpg" alt="ห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์" width="100%" height="100%" />

12. ห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์

การตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์ เน้นการโชว์ผนังและพื้นปูนเปลือย การโชว์โครงสร้างของอาคาร การเล่นแสง และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเหล็ก ที่มองเห็นโครงสร้างได้ เช่น โต๊ะขาเหล็กที่เผยแกนเหล็กให้เห็นเด่นชัด หรือการใช้โคมไฟเหล็กทรงสูง นอกจากนี้ อาจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนัง เช่น โซฟาบุหนังด้านสีอิฐ ก็จะช่วยเพิ่มความดิบเท่ให้กับห้องนั่งเล่นได้อีกด้วย

ห้องนั่งเล่นสีเอิร์ทโทน

13. ห้องนั่งเล่นสีเอิร์ทโทน

ห้องนั่งเล่นสีเอิร์ทโทน จะเน้นการตกแต่งด้วยสีเอิร์ทโทน ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่ที่สีน้ำตาลเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึง สีเบจ สีเทา สีเขียวมะกอก สีอิฐ และสีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งเป็นโทนสีที่ดูอบอุ่น และสบายตา โดยอาจแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่มีรูปแบบใกล้เคียงธรรมชาติ หรือของประดับที่ดูเป็นธรรมชาติ เช่น กิ่งไม้ต่างๆ ดอกไม้หรือฟางหญ้าแห้ง เป็นต้น

ห้องนั่งเล่นสีสดใส เติมพลัง

14. ห้องนั่งเล่นสีสดใส เติมพลัง

ห้องนั่งเล่นสีสดใส หรือสีลูกกวาด ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่สดชื่นให้ทุกๆ คนในครอบครัวได้ สำหรับใครที่กังวลว่า การตกแต่งห้องนั่งเล่นด้วยสีสดใสทั้งหมดจะเข้ากันหรือไม่ สามารถเลือกทาสีพื้นและผนังเป็นสีเรียบๆ เช่น สีขาว และเลือกเน้นสีสดใสของเฟอร์นิเจอร์แทนได้ เช่น สีเหลืองมะนาว หรือสีชมพูบานเย็น ก็จะช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องนั่งเล่นของคุณได้

ห้องนั่งเล่นสไตล์อังกฤษ

15. ห้องนั่งเล่นสไตล์อังกฤษ

ห้องนั่งเล่นสไตล์อังกฤษ คือ การตกแต่งที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน โดยการใช้สีที่ดูสบายตา เช่น สีขาว สีครีม หรือสีฟ้าอ่อน ร่วมกับการกระจายแสงภายในห้อง กล่าวคือ เป็นห้องนั่งเล่นที่มีแสงสว่างจากหลายทาง เช่น แสงธรรมชาติ และแสงจากหลอดไฟเล็กๆ หลายชิ้น มากกว่าการใช้โคมไฟ หรือหลอดไฟหลักเพียงดวงเดียว นอกจากนี้ อาจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีขาว หรือไม้ฉลุ ก็จะช่วยเพิ่มความหรูหรา และสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการนั่งพักผ่อน หรือจิบชายามบ่ายได้เป็นอย่างดี

เทคนิคการแต่งห้องนั่งเล่นให้สวยเด่น ไม่จำเจ

นอกจากสไตล์การตกแต่งในแบบต่างๆ ที่ได้แนะนำไปแล้ว ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นให้ห้องนั่งเล่นของคุณดูสวยโดดเด่น และไม่เหมือนใครด้วยเทคนิคในการแต่งห้อง ดังนี้

ใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่ง

ใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่ง

การใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่งห้องนั่งเล่น จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับห้องนั่งเล่นได้ เช่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือการเพิ่มเติมของประดับที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น  ตะกร้าสาน แจกันดอกไม้ที่ทำจากไม้ หรือจะเป็นรูปแกะสลักจากไม้ ก็จะช่วยเพิ่มความสบายตามากขึ้น นอกจากนี้ อาจเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องด้วยการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ เช่น ลิ้นมังกร หรือมอนสเตอร่า ก็เป็นการเสริมบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายมากขึ้นได้เช่นกัน

หารูปภาพมาตกแต่งเพิ่มความเก๋

หารูปภาพมาตกแต่งเพิ่มความเก๋

การนำรูปภาพที่มีความโดดเด่น มีลวดลายที่แปลกตา ภาพวาดแบบวินเทจ หรือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาประดับบนผนัง หรือตั้งไว้ตามมุมต่างๆ ของห้องนั่งเล่น จะช่วยทำให้ผนังห้องดูมีมิติมากขึ้น และเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องได้ นอกจากนี้ การเลือกกรอบรูปที่มีเข้ากับการสไตล์การตกแต่งห้อง หรือกรอบที่มีดีไซน์เก๋ๆ เช่น กรอบรูปทรงวงกลม หรือกรอบรูปทรงสามเหลี่ยม ก็จะช่วยเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องนั่งเล่นของคุณ

หามุมที่แสงธรรมชาติเข้าถึง

แสงธรรมชาติเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นกับห้องนั่งเล่น เพราะแสงที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง จะช่วยทำให้ห้องดูไม่อึดอัด และดูปลอดโปร่งขึ้นได้ รวมถึง ยังช่วยจำกัดเชื้อโรคภายในห้องอีกด้วย ทั้งยังช่วยในการประหยัดไฟในช่วงเวลากลางวัน แต่หากแสงที่ลอดผ่านเข้ามามากเกินไป อาจใช้ผ้าม่านบางๆ กั้นเพื่อกรองแสงลงได้เช่นกัน

เลือกคู่สีที่ตัดกัน

เลือกคู่สีที่ตัดกัน

การใช้คู่สีที่ตัดกัน ทำให้ห้องนั่งเล่นดูโดดเด่น และมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การทาผนังห้องด้วยสีเหลืองสด ร่วมกับการใช้เฟอร์นิเจอร์สีกรมท่า หรือน้ำเงินเข้ม ซึ่งจะเข้ามาเบรกความร้อนแรงของสีผนัง และทำให้โทนสีภายในห้องดูสมดุลมากยิ่งขึ้นได้

ปูพรมตกแต่งห้อง

นอกจากการปูพรมจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการตกแต่งห้องนั่งเล่นแล้ว ยังสามารถใช้ในการจัดพื้นที่ห้องออกเป็นสัดส่วนอีกด้วย โดยสามารถเลือกพรมที่มีลวดลายและสีสันที่ช่วยเสริม Mood & Tone ให้ห้องได้ หรืออาจเลือกพรมที่มีสัมผัสที่นุ่มฟู ก็จะช่วยเสริมให้ห้องดูอบอุ่นมากขึ้น

ประดับด้วยโคมไฟ

ประดับด้วยโคมไฟ

ปัจจุบัน โคมไฟมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแบบตั้งโต๊ะ แบบตั้งพื้น หรือแบบราง ซึ่งสามารถเลือกรูปแบบของโคมไฟได้ตามชอบ หรือจะเลือกดีไซน์ที่ช่วยเสริมบรรยากาศของห้องนั่งเล่น เช่น โคมไฟตั้งพื้นทรงสูงทำจากเหล็ก จะช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณดูเป็นสไตล์ลอฟท์มากยิ่งขึ้น

นอกจากดีไซน์แล้ว อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกโคมไฟ คือ การพิจารณาประเภทของหลอดไฟ โดยควรเลือกประเภทที่ให้แสงเพียงพอต่อการใช้งาน หรือใช้หลอดไฟแบบวอร์มไวท์หรือคูลไวท์ ที่สีไฟดูอบอุ่น และอ่อนโยน ซึ่งช่วยเพิ่มความสว่างภายในห้อง แต่ก็ยังคงบรรยากาศผ่อนคลายของห้องนั่งเล่นไว้ได้

จัดวางของต่างๆ ในห้องนั่งเล่นให้ลงตัว

แม้การเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เก๋ๆ หรือสีสันสดใส เช่น กระจกทรงไม่สมมาตร หรือโซฟาสีส้ม จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับห้องนั่งเล่นของคุณได้ แต่การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ดูเข้ากัน และง่ายต่อการใช้งานก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน

ใช้ผ้าม่านที่เข้ากันกับสไตล์ห้อง

ผ้าม่าน ถือเป็นของตกแต่งห้องอีกชิ้นที่จะทำให้ห้องแต่ละห้องนั้นมีเอกลักษณ์และโดดเด่น การเลือกผ้าม่านสำหรับตกแต่งห้องนั่งเล่น ควรพิจารณาเลือกตามสไตล์การตกแต่งห้อง เช่น การเลือกใช้ผ้าม่านที่ทำจากผ้ากำมะหยี่สำหรับการแต่งห้องนั่งเล่นแบบหรู หรือการเลือกใช้ผ้าม่านแบบผ้าฝ้ายสำหรับการตกแต่งแบบมินิมอลหรือการตกแต่งสไตล์มูจิ เป็นต้น

เลือกเฟอร์นิเจอร์สุดแนว

เลือกเฟอร์นิเจอร์สุดแนว

การตกแต่งห้องนั่งเล่นในสไตล์สีสดใส หรือสไตล์โมเดิร์นนั้น สามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูมีลูกเล่น เช่น เก้าอี้ที่มีสีตัดกันอย่างสีแดงและน้ำเงิน หรือโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศสนุกๆให้กับห้องนั่งเล่น หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in สีดำ ก็ถือเป็นอีกไอเดียในการตกแต่งห้องนั่งเล่นโทนขรึมได้เป็นอย่างดี

เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องนั่งเล่น

แน่นอนว่า ในวันว่างที่เราต้องอยู่กับบ้าน ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่เรามักใช้เวลาส่วนใหญ่ในวันว่างเหล่านั้น ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องนั่งเล่น ย่อมทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและสดชื่นขึ้น เป็นจุดพักสายตาเมื่อเหนื่อยล้าจากการจ้องหน้าจอนานๆ อีกทั้งช่วยฟอกอากาศให้สดชื่นขึ้นอีกด้วย

เทคนิคการเลือกสีห้องนั่งเล่นให้สวย ปัง ถูกใจ

ก่อนจะเลือกสีมาทาหรือตกแต่งห้องนั่งเล่น มีปัจจัยต่างๆ ที่ควรคำนึงมากมาย เช่น ขนาดของห้อง ความชื่นชอบส่วนตัว หรือสไตล์ของห้อง โดยเทคนิคในการแต่งห้องนั่งเล่นให้ออกมาสวยเด่น และตอบโจทย์การใช้งาน มีดังนี้

ใช้สีกำหนดบรรยากาศ

ในทางจิตวิทยา สีแต่ละสีสามารถสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกันได้ หากต้องการให้ห้องนั่งเล่นมีบรรยากาศที่สบายๆ และเหมาะแก่การพักผ่อน อาจเลือกใช้สีโทนอ่อนในการทาผนังเป็นหลัก เช่น สีขาว สีเบจ สีครีม หรือสีฟ้าอ่อน เป็นต้น โดยอาจเพิ่มลูกเล่น หรือเพิ่มมิติให้กับห้องด้วยการเลือกใช้สีเข้มหรือสีสด เช่น สีแดง สีดำ และสีเหลือง ตกแต่งร่วมด้วย

ใช้สีช่วยให้ห้องดูกว้าง

หากห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การเลือกใช้สีโทนสว่าง เช่น สีขาว สีครีม หรือสีพาสเทล จะช่วยทำให้ห้องดูโล่งโปร่งและกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีหลายฟังก์ชัน เช่น ตู้วางโทรทัศน์ที่มีลิ้นชักเก็บของ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถมองทะลุอีกด้านได้ เช่น โต๊ะและเก้าอี้ที่ขาเปิดโล่ง ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และไม่ทำให้ห้องดูอึดอัด

จับคู่สีให้สวยลงตัว (60-30-10)

การจัดสัดส่วนสี 60:30:10 คือทฤษฎีการแบ่งสัดส่วนของการเลือกใช้สีในการตกแต่งห้อง โดยแยกสัดส่วน ดังนี้

  • 60 สำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ของห้อง เช่น ผนัง พื้น เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก เช่น โซฟา โต๊ะกลาง ตู้โชว์ เป็นต้น
  • 30 สำหรับพื้นที่ส่วนที่รองลงมา เช่น ของประดับขนาดใหญ่ เช่น ผ้าม่าน พรม เป็นต้น
  • 10 สำหรับส่วนประกอบขนาดเล็ก เช่น ของประดับที่มีขนาดย่อมลงมา เช่น โคมไฟ แจกัน ตุ๊กตาประดับ เป็นต้น

การใช้ทฤษฎีสัดส่วนสี 60:30:10 ทำให้สามารถจับคู่สีและเลือกสีเพื่อทำให้สไตล์การแต่งห้องนั่งเล่นลงตัวมากขึ้น ช่วยให้การผสมผสานสีที่มีโทนสีที่แตกต่างกันสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวและกลมกลืน ทำให้การตกแต่งดูโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และบ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของได้มากขึ้นอีกด้วย

หากใครที่กำลังคิดจะเปลี่ยนห้องนั่งเล่นธรรมดาๆ ให้เป็นห้องที่สดใส มีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ก็สามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปตกแต่งห้องนั่งเล่นกันได้  ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งด้วยต้นไม้ หรือการเลือกเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ ให้เข้ากับบรรยกาศในห้อง ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าเหมือนได้ห้องนั่งเล่นใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของคนในบ้าน จนคุณรู้สึกไม่อยากออกไปไหนเลย


11018 Views