เลือกพื้นโรงรถแบบไหนดี ให้สวยทน เหมาะกับการใช้งาน เลือกพื้นโรงรถแบบไหนดี ให้สวยทน เหมาะกับการใช้งาน

เลือกพื้นโรงรถแบบไหนดี ให้สวยทน เหมาะกับการใช้งาน

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าโรงจอดรถไม่สำคัญ เพราะว่าตรงไหนที่มีที่ ก็สามารถจอดรถได้เหมือนกัน แต่รู้หรือไม่ว่า โรงจอดรถนั้นสามารถช่วยป้องกันแสงแดด ลม ฝน หรือสิ่งของต่างๆ ที่อาจทำให้รถของคุณเสียหายได้ และสิ่งสำคัญในการทำโรงจอดรถที่ไม่ควรมองข้าม คือ การทำพื้นโรงรถ ถ้าหากปูพื้นโรงรถไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้พื้นรับน้ำหนักไม่ไหวจนมีปัญหาพื้นแตก หรือพื้นลื่นจนไม่สามารถใช้งานได้

ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำว่าควรเลือกพื้นโรงรถแบบไหนดี ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้มีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น


พื้นโรงรถมีกี่ประเภท เลือกทำแบบไหนดี


พื้นโรงรถมีกี่ประเภท เลือกทำแบบไหนดี

สิ่งแรกที่ทุกคนควรรู้ก่อนจะตัดสินใจทำโรงจอดรถ คือ ประเภทต่างๆ ของพื้นโรงรถ เพื่อจะได้เลือกทำให้เหมาะสมกับการใช้งาน และตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยพื้นโรงรถที่ควรรู้จักนั้นมีทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

1. พื้นคอนกรีต หรือพื้นปูนธรรมดา

พื้นโรงรถประเภทแรกที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็น หรือว่ารู้จักอยู่แล้ว คือ พื้นคอนกรีต หรือพื้นปูนธรรมดา เป็นพื้นโรงรถที่ไม่ต้องใช้เวลาทำนาน ประหยัดงบประมาณ และสามารถนำไปปรับให้เป็นสไตล์อื่นๆ ได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว ทำโรงจอดรถที่บ้านขนาดเล็กถึงปานกลาง หรือมีงบประมาณจำกัด แต่ถ้าหากอยากเพิ่มความสวยงามก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสไตล์ต่างๆ ได้ ดังนี้

  • พื้นคอนกรีตขัดมัน เป็นพื้นโรงรถขัดมัน ที่ทำการขัดและปัดผิวคอนกรีตด้วยเครื่องขัดพื้นความเร็วสูง เพื่อให้หน้าคอนกรีตเรียบและเงาขึ้น ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย มีความคงทน แข็งแรง และมีอายุการใช้งานนานมากยิ่งขึ้น
  • พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย เป็นพื้นโรงรถที่จะทำการโรยผงสีบนผิวหน้าคอนกรีตหลังจากเทคอนกรีตตามปกติเสร็จแล้ว จึงค่อยนำแม่แบบมาพิมพ์ลายจนทั่วทั้งพื้นผิว และค่อยเก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง ช่วยให้พื้นมีความทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ไม่ลื่น และดูแลรักษาง่ายขึ้น

ถึงแม้ว่าพื้นโรงรถแบบคอนกรีตนั้นจะค่อนข้างเป็นที่นิยม และสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ดังนั้น คุณควรรู้ข้อมูล 3 จุดหลักๆ นี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการทำพื้นโรงรถแบบคอนกรีต

  • เป็นพื้นโรงรถที่ทำทำความสะอาดค่อนข้างยาก เพราะว่าหน้าพื้นผิวไม่เรียบ และค่อนข้างหยาบ
  • ถ้าหากไม่ดูแลพื้นผิวปูน หรือไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ อาจทำให้เกิดตะไคร่น้ำ ส่งผลให้พื้นดูสกปรก และอาจทำให้พื้นลื่น เกิดอันตราย
  • ถ้าหากผสมคอนกรีตไม่ดี อาจทำให้พื้นคอนกรีตเปราะบาง และเกิดรอยแตกร้าวได้

พื้นอีพ็อกซี่


2. พื้นอีพ็อกซี่

พื้นอีพ็อกซี่ เป็นพื้นที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นตามห้างสรรพสินค้า หรือตามลานจอดรถขนาดใหญ่ พื้นอีพ็อกซี่ เป็นพื้นที่มีความแข็งแรง และมีความทนทานสูง แถมยังมีผิวเรียบเนียน เงาวาว และสวยงามอีกด้วย พื้นอีพ็อกซี่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ถ้าหากใครที่ไม่ชอบพื้นปูนธรรมดา อยากเพิ่มความสวยและเงางามให้กับพื้นโรงรถ พื้นประเภทนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งข้อดี และข้อจำกัดของพื้นอีพ็อกซี่ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจว่าเหมาะกับทำโรงจอดรถที่บ้านหรือไม่ มีดังนี้

  • ข้อดีของพื้นอีพ็อกซี่ เป็นพื้นที่ไม่ซึมน้ำ เวลาพื้นสกปรก หรือมีคราบต่างๆ ก็เห็นได้ง่าย และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ทันที แถมยังดูแล และทำความสะอาดไม่ยากอีกด้วย
  • ข้อจำกัดของพื้นอีพ็อกซี่ เป็นพื้นที่ต้องระมัดระวังเรื่องความชื้นเป็นพิเศษ เพราะว่าความชื้นอาจส่งผลให้พื้นพองตัว หลุดร่อน ไม่สวยงาม และอาจไปลดประสิทธิภาพ หรืออายุการใช้งานได้

พื้นกระเบื้อง


3. พื้นกระเบื้อง

พื้นกระเบื้อง เป็นพื้นโรงรถที่ได้รับความนิยมเช่นกัน สามารถพบเห็นได้ตามบ้านจัดสรร บ้านเรือนทั่วไป  เพราะว่าเป็นพื้นที่ทำได้ง่าย สะดวก มีลายให้เลือกหลากหลาย ดูทันสมัย โดยข้อดี และข้อจำกัดของพื้นกระเบื้องที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจว่าเหมาะกับทำโรงจอดรถที่บ้านหรือไม่ มีดังนี้

  • ข้อดีของพื้นกระเบื้อง เป็นพื้นที่ทำความสะอาดง่าย มีวิธีการดูแลรักษาไม่ยาก มีให้เลือกหลายแบบหลายขนาด และสามารถเลือกได้ตามการใช้งาน หรือรูปแบบที่ต้องการได้ตามใจชอบ ถ้าหากไม่รู้ว่าจะปูกระเบื้องลายไหนดี TOA ก็มีกระเบื้องหลากหลายดีไซน์ให้เลือกใช้ ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเลิฟอย่างแน่นอน
  • ข้อจำกัดของพื้นกระเบื้อง เป็นพื้นที่ถ้าไม่ได้รับการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ก็อาจทำให้เจอกับปัญหากระเบื้องแตกในระหว่างการใช้งาน และอาจเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพิ่มอีกด้วย

4. พื้นไวนิล

พื้นไวนิล หรือมีอีกชื่อเรียกว่า พื้นกระเบื้องยาง เป็นพื้นโรงรถที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้ประเภทอื่นๆ เลยทีเดียว เพราะว่าสามารถติดตั้งได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว แถมยังมีลวดลายให้เลือกใช้อีกมากมาย แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกใช้พื้นไวนิล คือ ความหนาของพื้นยาง ควรใช้ที่มีความหนาอย่างน้อย 3 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และรับน้ำหนักได้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับข้อควรระวังในการทำพื้นโรงรถแบบไวนิลนั้นมีข้อควรระมัดระวัง ดังนี้

  • หากติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน เช่น มีช่องว่างระหว่างแผ่นยาง หรือติดแผ่นยางเกยกัน อาจทำให้เกิดน้ำขังที่พื้นโรงรถ และกัดเซาะกาวติดแผ่นยางจนหลุดล่อนได้
  • หากเลือกใช้กาวติดแผ่นยางไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้แผ่นยางหลุดง่าย ติดไม่คงทน และอาจทำให้แผ่นอื่นๆ ได้รับความเสียหายตามไปด้วย

5. พื้นทรายล้าง

พื้นทรายล้าง เป็นพื้นโรงรถที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีเม็ดกรวดหลากหลายสี หลายขนาดให้เลือก และสามารถออกแบบเองได้ตามใจชอบ โดยลักษณะของพื้นทรายล้างจะมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบ และขรุขระ เหมาะสำหรับคนที่เป็นกังวลเรื่องพื้นลื่น ซึ่งข้อควรระมัดระวังในการทำพื้นโรงรถแบบทรายล้าง มีดังนี้

  • ควรติดตั้งโดยช่างที่มีความชำนาญ เพราะจะต้องทำการผสมปูนซีเมนต์ขาวกับเม็ดกรวดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาพื้นแตกในระหว่างการใช้งาน
  • เคลือบน้ำยาป้องกันการสะสมตะไคร่อยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันตะไคร่เกิดตามซอกเม็ดกรวด
  • ซ่อมแซมค่อนข้างยาก ถ้าหากมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่อาจจะต้องรื้อถอนทั้งหมด และทำการติดตั้งใหม่

ทำอย่างไรถึงจะมีพื้นโรงรถที่สวยถูกใจและแข็งแรง

หลังจากทำความรู้จักกับพื้นโรงรถประเภทต่างๆ ไปเรียบร้อยแล้ว หลายๆ คนอาจจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำพื้นโรงรถแบบไหนดี ดังนั้น ต่อไปเรามาดูกันว่าจะทำยังไงให้พื้นโรงรถของเราออกมาสวยถูกใจ แข็งแรง และทนทานมากยิ่งขึ้น จะมีวิธีอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!


พื้นโรงรถคอนกรีตธรรมดา


ทำพื้นโรงรถคอนกรีตธรรมดา

การทำพื้นโรงรถคอนกรีตธรรมดาจะต้องให้ความสำคัญกับการผสมปูนเป็นพิเศษ เพราะถ้าผสมปูนไม่ได้มาตรฐาน เช่น ผสมน้ำเกินอัตราส่วน หรือใช้ปูนซีเมนต์น้อยเกินไป เป็นต้น อาจทำให้ผิวหน้าพื้นคอนกรีตเยิ้มน้ำ หรือพื้นคอนกรีตแตกได้ง่าย และมีอายุการใช้งานสั้นกว่าปกติ

ดังนั้น เราจึงควรผสมปูนให้ถูกต้องตามสัดส่วน พร้อมกับเสริมความแข็งแรงให้กับพื้นโรงรถตั้งแต่เริ่มสร้างด้วย TOA วอเตอร์พรูฟ แอดมิกเจอร์ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้คอนกรีตแน่นขึ้น ลดอัตราการหดตัว และช่วยเพิ่มแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคเล็กๆ ของปูนซีเมนต์ได้ดี แถมยังช่วยกันซึม ป้องกันการแตกร้าว และไม่มีส่วนผสมของสารประกอบคลอไรด์ ทำให้ไม่กัดกร่อนเหล็กเสริม แต่ถ้าหากพื้นโรงรถที่บ้านเป็นพื้นคอนกรีตธรรมดาอยู่แล้ว และไม่มีการขัดมัน หรือทำอะไรเพิ่มเติม ก็สามารถใช้ TOA 113 ไมโครคิล ในการช่วยกำจัดเชื้อรา หรือตะไคร่น้ำตามพื้นได้ เมื่อสังเกตว่าพื้นโรงรถของเราเกิดคราบเชื้อราและตะไตร่น้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นสกปรก หรือพื้นลื่น ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย


ทำพื้นโรงรถพื้นอีพ็อกซี่


ทำพื้นโรงรถพื้นอีพ็อกซี่

สำหรับการทำพื้นโรงรถอีพ็อกซี่นั้นจะต้องเน้นไปที่สีที่ใช้ในการทารองพื้น และทาทับหน้า ถ้าหากเลือกสีอีพ็อกซี่ที่ไม่ได้คุณภาพ หรือไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้พื้นโรงรถของคุณนั้นไม่เนียนสวย และเงาวาวเท่าที่ควร แถมยังมีอายุการใช้งานสั้นลงอีกด้วย ดังนั้น การเลือกใช้ตัวช่วยเสริมดีๆ ในการทำพื้นประเภทนี้ ก็จะช่วยให้ได้พื้นโรงรถสวยๆ และเงางามเหมือนในห้าง หรือโชว์รูมรถหรูแล้ว อย่างเช่น

  • TOA ฟลอร์การ์ด 100 เป็นสีอีพ็อกซี่ชนิดฟิล์มบาง มีให้เลือกหลากหลายสี ทนทานต่อสารเคมี การขูดขีด และการฉีกขาด แถมยังให้ความเงางาม และปกป้องพื้นผิวได้อย่างดีเยี่ยม
  • TOA ฟลอร์การ์ด พียู 100 เป็นสีอีพ็อกซี่ชนิดฟิล์มบางที่เหมาะกับการทำพื้นโรงรถสวยๆ ในที่กลางแจ้ง หรือที่ที่มีแสงแดดส่องตลอดเวลา เพราะทนต่อแดด และแสงยูวีได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังทนทานต่อน้ำ สารเคมี การขูดขีด และการฉีกขาดเหมือนกัน

ในการทำพื้นโรงรถอีพ็อกซี่ห้ามลืมทารองพื้นก่อนเด็ดขาด เพราะสีรองพื้นจะช่วยในการยึดเกาะพื้นผิว และยึดเกาะสีทับหน้าสี โดย TOA มีรองพื้นสำหรับงานอีพ็อกซี่อยู่ 2 แบบ โดยคุณสามารถเลือกใช้ได้ตามประเภทของพื้นผิวปูน นั่นก็คือ

  • TOA ฟลอร์การ์ด ไพรเมอร์ สำหรับทารองพื้นบนผิวคอนกรีตทั่วไปก่อนลงสีอีพ็อกซี่ ช่วยให้ทนทานต่อน้ำ และช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานมากขึ้น
  • TOA เพนเทรตติ้ง ซีลเลอร์ สำหรับทาบนพื้นผิวปูนขัดมัน ช่วยให้ทนทานต่อน้ำ และช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานมากขึ้น

ทำพื้นโรงรถพื้นกระเบื้อง


ทำพื้นโรงรถพื้นกระเบื้อง

สำหรับการทำพื้นโรงรถกระเบื้อง หลายๆ คนอาจจะให้ความสำคัญกับกระเบื้องมากที่สุด แต่ว่าอย่ามัวเลือกดีไซน์กระเบื้องเพียงอย่างเดียว ต้องให้ความสำคัญกับใต้พื้นกระเบื้องด้วยเช่นกัน เพราะหลายๆ บ้านอาจจะเคยประสบกับปัญหากระเบื้องโก่ง กระเบื้องระเบิด และกระเบื้องล่อน แต่ไม่รู้เกิดจากอะไร?

ดังนั้น การเลือกใช้ปูนกาวที่ดี และมีคุณภาพ เช่น กาวซีเมนต์ ทีโอเอ โปรไทล์ ที่เป็นปูนกาวส่วนผสมเดียว ไม่ใช่ซีเมนต์ผสมทราย พร้อมกับติดตั้งด้วยวิธีการปูกระเบื้องที่ได้มาตรฐาน หลีกเลี่ยงการปูแบบซาลาเปา หรือปูแบบขุยขี้หนู ก็จะช่วยลดปัญหากระเบื้องหลุด แตก โก่ง ระเบิด และล่อนได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณได้พื้นโรงรถสวยๆ สามารถใช้งานได้นาน และไม่ต้องซ่อมบ่อยอย่างแน่นอน

 

 


เคล็ดลับการยืดอายุการใช้งานของโรงจอดรถ


เคล็ดลับการยืดอายุการใช้งานของโรงจอดรถ

เมื่อเลือกประเภทพื้น พร้อมกับใช้ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ ก็จะช่วยให้พื้นโรงรถของคุณนั้นสวยงาม แข็งแรง และทนทานมากยิ่งขึ้น แต่จะดีกว่าหรือไม่? ถ้าเราสามารถยืดอายุการใช้งานของโรงจอดรถให้นานมากยิ่งขึ้นได้อีก ดังนั้น ทาง TOA จึงจะมาแนะนำเคล็ดลับการยืดอายุให้พื้นโรงรถสวยๆ ของคุณสามารถใช้งานได้นานๆ โดย 3 เคล็ดลับที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานพื้นโรงรถประเภทต่างๆ ได้ มีดังนี้

เสริมประสิทธิภาพให้โรงรถด้วยหลังคาสำหรับกันแดดกันฝน

นอกจากการเลือกพื้นโรงรถที่เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยยืดอายุการใช้งานของโรงจอดรถแล้ว การเลือกหลังคาโรงจอดรถ ก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเลือกใช้หลังคาให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด เช่น หลังคาเมทัลชีท, หลังคาไวนิล, หลังคาอะคริลิก และหลังคาไฟเบอร์กลาส เป็นต้น หรือเลือกใช้โครงสร้างที่เหมาะกับบ้านของคุณก็ได้เช่นกัน

หลังคานั้นสามารถช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่ส่องมายังพื้นและรถของคุณ รวมถึง ช่วยป้องกันลม ฝน และสิ่งของต่างๆ ที่อาจพัดผ่าน หรือจะตกหล่นมายังรถได้ แถมยังสามารถเลือกหลังคาที่มีดีไซน์สวยงาม เพื่อช่วยตกแต่งโรงจอดรถของคุณให้ดูดี ทันสมัย และมีสไตล์มากขึ้นได้อีกด้วย

วางแผนดูแลรักษาพื้นโรงรถ

การวางแผนดูแลรักษาพื้นโรงรถ เป็นอีกเคล็ดลับที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นโรงจอดรถให้นานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นโรงรถเป็นจุดสำหรับจอดรถยนต์ และเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายนอก ทำให้เกิดคราบสกปรก หรือมีฝุ่นเกาะตามพื้นได้ง่าย ส่งผลให้พื้นดูสกปรก ไม่สะอาดตา และยังเป็นต้นตอของเชื้อโรคได้อีกด้วย ดังนั้น จึงควรดูแลรักษา และหมั่นทำความสะอาดพื้นอยู่เป็นประจำ โดยวิธีการทำความสะอาดพื้นโรงรถแต่ละแบบ มีดังนี้

  • พื้นโรงรถแบบคอนกรีต สามารถดูแลรักษาได้ง่ายๆ ด้วยการใช้น้ำยาขัดพื้น และแปรงขัดพื้นขัดให้ทั่ว หลังจากขัดเสร็จแล้วจึงค่อยใช้สายยางฉีดน้ำ หรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงในการฉีดกำจัดน้ำยา และคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไป และปล่อยให้แห้ง
  • พื้นโรงรถแบบอีพ็อกซี่ สามารถดูแลรักษาได้ด้วยการใช้ไม้ถูพื้นชุบกับน้ำเปล่าสะอาด เพราะว่าพื้นแบบนี้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย แต่ถ้ามีคราบหนักก็อาจจะใช้น้ำยาถูพื้นเสริมได้ เพื่อให้คราบนั้นออกง่ายขึ้น และไม่ต้องใช้แรงเยอะ ออกแรงนิดเดียวคราบก็ออกและกลับมาสะอาดเหมือนใหม่
  • พื้นโรงรถแบบกระเบื้อง สามารถดูแลรักษาได้ด้วยการใช้น้ำยาขัดพื้น โดยเทน้ำยาราดพื้นให้ทั่ว พร้อมกับใช้แปรงขัด หลังจากนั้นใช้น้ำฉีด เพื่อกำจัดน้ำยา และคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไป และปล่อยให้แห้งก็เป็นอันเสร็จ
  • พื้นโรงรถแบบไวนิล สามารถดูแลรักษาได้ด้วยการใช้น้ำเปล่า หรือน้ำยาล้างพื้น พร้อมกับใช้แปรงขัดให้ทั่วอย่างเบาๆ เพราะว่าพื้นแบบนี้สามารถขัดคราบต่างๆ ออกได้ง่าย และไม่ควรปล่อยให้แห้งด้วยตัวเอง ควรใช้ที่กวาดน้ำ หรือใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
  • พื้นโรงรถแบบทรายล้าง สามารถดูแลรักษาได้ด้วยการใช้น้ำยาขัดพื้น และแปรงขัดพื้นให้ทั่ว พร้อมกับใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เพื่อให้คราบสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่ตามซอกมุมหลุดออกได้ง่าย หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง หากไม่อยากให้มีฝุ่นหรือคราบสกปรกฝังลึก สามารถเลือกใช้ ทีโอเอ 200 ฟลอริ่งพลัส เพื่อช่วยเคลือบพื้นผิว ช่วยป้องกันการฝังตัวของฝุ่นให้น้อยลง และช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น แต่การเคลือบในลักษณะนี้ต้องมั่นใจว่า ด้านล่างของพื้นโรงรถนั้นไม่มีความชื้น เพราะหากด้านล่างของพื้นโรงรถมีความชื้น ก็อาจมีโอกาสที่ความชื้นจะลอยดันเอาแคลเซียมที่อยู่ตามรูพรุนของทรายล้างขึ้นมาที่ด้านบน ซึ่งจะทำให้น้ำยาที่เคลือบไปนั้นเกิดฝ้าขาว

ในการทำพื้นโรงรถ การคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ในการปูพื้นโรงรถถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้ได้พื้นโรงรถสวยๆ แล้วยังได้พื้นโรงรถที่เหมาะสมกับบ้าน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยและรู้สึกว่าทำมาแล้วยุ่งยากต่อการดูแลรักษา และอย่าลืมว่า การทำพื้นโรงรถให้ดี ควรเลือกช่างผู้รับเหมาที่มีมาตรฐาน ทำงานอย่างเข้าใจ รวมทั้งต้องไม่ลืมที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานอย่าง TOA รับรองว่าพื้นโรงรถของคุณจะสวยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่พังหรือเสียหายก่อนเวลาที่ควรจะเป็น


6094 Views