สีทนความร้อน คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?

หลายๆ คนอาจจะกำลังสับสนระหว่างสีทนความร้อน และสีทากันความร้อน เพราะคิดว่าสีทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสีชนิดเดียวกัน มีคุณสมบัติเหมือนกัน และสามารถใช้งานได้เหมือนกัน แต่ความจริงนั้นสีทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของสี คุณสมบัติ หรือลักษณะการใช้งาน ดังนั้น ในบทความนี้ทาง TOA จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสีทนความร้อน เพื่อที่จะได้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง และตรงกับลักษณะการใช้งานมากที่สุด

ทำความรู้จักกับสีทนความร้อนให้มากขึ้น

สีทนความร้อน คือ สีสำหรับงานเฉพาะทางที่ผลิตจากส่วนประกอบที่สามารถทนความร้อนได้ หรือสามารถต้านทานความร้อนได้ดี เมื่อทาลงไปบนพื้นผิววัสดุแล้วจะช่วยเคลือบผิววัสดุให้สามารถทนต่อความร้อนได้ดี และปกป้องไม่ให้ผิววัสดุถูกทำลายจากความร้อน โดยส่วนใหญ่มักจะใช้กับงานที่ต้องอยู่กับความร้อนเป็นเวลานาน เช่น หม้อน้ำ ท่อไอเสีย เตาเผา เตาอบ หรืองานที่ต้องทนกับความร้อน เป็นต้น

แต่สำหรับสีทากันความร้อนนั้นจะเป็นเพียงแค่การทาสีลงไปเนื้อผิวต่างๆ เช่น พื้นผิวปูนฉาบ คอนกรีตเปลือย อิฐ กระเบื้องแผ่นเรียบ เพื่อให้สะท้อนความร้อนออกไป และมักนิยมใช้กับบ้าน ที่พักอาศัย ซึ่งก็จะเห็นว่าคุณสมบัติและการใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไป

ทำไมต้องเลือกใช้สีทนความร้อน

สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมถึงต้องเลือกใช้สีทนความร้อนสูง? เพราะว่าสีทนความร้อนนั้นมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถทนทานต่อความร้อนได้สูง มีการยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี และมีความยืดหยุ่นของเนื้อสีสูง ทำให้ไม่เกิดรอยร้าว หรือลอกร่อนได้ง่าย นอกจากนั้นยังสามารถช่วยป้องกันการกัดกร่อนของวัสดุ และช่วยป้องกันสนิมในกรณีที่ใช้กับพื้นผิวที่เป็นโลหะได้ด้วย

ถ้าหากวัสดุที่ต้องอยู่กับความร้อนเป็นเวลานานไม่ได้ทาสีประเภทนี้ อาจทำให้วัสดุได้รับความเสียหายในระหว่างการใช้งาน เพราะว่าพื้นผิววัสดุนั้นไม่มีความทนทาน และไม่สามารถป้องกันความร้อนได้ แถมยังอาจจะเกิดการกัดกร่อน ได้อีกด้วย

เลือกสีทนความร้อนอย่างไรให้ใช้ได้จริง

ได้ทำความรู้จักกับสีประเภทนี้ไปในเบื้องต้นแล้ว หลายๆ คนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่าควรเลือกสีทนความร้อนอย่างไรให้ใช้ได้จริง โดยวิธีการเลือกสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกจากยี่ห้อของสีที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพ และได้รับมาตรฐาน พร้อมกับดูคุณสมบัติว่าสามารถกันความร้อนได้กี่องศา และตรงกับลักษณะการใช้งานของเราหรือไม่ เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะได้สีที่สามารถทนความร้อนได้จริงแบบ 100%

สีทนความร้อนเหมาะกับการใช้งานกับธุรกิจประเภทไหน

สีทนความร้อนนั้นสามารถใช้ได้กับงานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานภายนอก หรืองานภายในทั่วไป หรืองานที่ต้องอยู่กับความร้อน เช่น เตาเผา เตาอบ ปล่องไฟ ท่อไอเสีย หม้อน้ำ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการความทนทานต่อความร้อนเป็นพิเศษ เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์สีทนความร้อนทีโอเอ ซิลการ์ด

ถ้าหากคุณยังเลือกไม่ได้ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์สีทนความร้อนของยี่ห้อไหนดี ทาง TOA ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ทีโอเอ ซิลการ์ด ที่ผลิตมาจากเรซิ่น ซิลิโคน และผงอะลูมิเนียม ที่สามารถป้องกันความร้อนได้สูง และสามารถใช้งานได้กับพื้นผิวหลายชนิด เช่น โลหะ หรือพื้นผิวที่ต้องการทนความร้อน ทนต่อสภาวะอากาศภายนอก  โดยมีทั้งหมด 2 แบบให้เลือกใช้ ดังนี้

• ทีโอเอ ซิลการ์ด 400 ที่สามารถทนความร้อนได้มากถึง 400 องศาเซลเซียส สามารถใช้ได้ทั้งงานภายนอก และงานภายในทั่วไป รวมถึงงานที่ต้องการความทนทานต่อความร้อนสูง
• ทีโอเอ ซิลด์การ์ด 700 ที่สามารถทนความร้อนได้มากถึง 700 องศาเซลเซียส เหมาะกับงานที่การความทนทานต่อความร้อนสูง เช่น เตาเผา ท่อไอเสีย ปล่องไฟ หรือหม้อน้ำ เป็นต้น และยังสามารถใช้ได้กับงานภายนอก และงานภายในทั่วไปได้เช่นกัน

ขั้นตอนวิธีการทาสีทนความร้อนทีโอเอ ซิลการ์ด

ถ้าหากต้องการให้สีที่ทาไปนั้นมีความทนทาน และมีอายุการใช้งานนาน จะต้องทำการทาสีให้ถูกต้องตามขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพื้นผิว การผสมสีกับทินเนอร์ การลงสีรองพื้น หรือการลงสีทาทับหน้า โดยวิธีการทาสีทนความร้อนทีโอเอ ซิลการ์ด มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ดังนี้

การเตรียมพื้นผิว

ขั้นตอนแรกคือ การเตรียมพื้นผิว เป็นขั้นตอนในการทำความสะอาดพื้นผิวของชิ้นงาน ขจัดคราบสนิม ฝุ่นผง คราบไขมัน หรือคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ก่อนลงสีรองพื้น เพื่อให้สีนั้นสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น

เจือจางด้วยทินเนอร์

ก่อนจะทำการลงสีจะต้องนำมาเจือจางกับทีโอเอ ทินเนอร์ เบอร์ 91 เพราะว่าสีทีโอเอ ซิลการ์ดนั้นมีความเข้มข้นสูง โดยอัตราการผสมจะเป็นมีดังนี้

• Airless Spray ผสมทีโอเอ ซิลการ์ด และทีโอเอ ทินเนอร์ เบอร์ 91 ในอัตราส่วน 1 : 5-10
• Air Spray ผสมทีโอเอ ซิลการ์ด และทีโอเอ ทินเนอร์ เบอร์ 91 ในอัตราส่วน 1 : 15-20
• แปรง หรือลูกกลิ้ง ผสมทีโอเอ ซิลการ์ด และทีโอเอ ทินเนอร์ เบอร์ 91 ในอัตราส่วน 1 : 10-15

ลงสี ทีโอเอ ซิลการ์ด

การลงสีทีโอเอ ซิลด์การ์ดโดยจะนำสีที่ผสมกับทินเนอร์ เรียบร้อยแล้วมาทาทั้งหมด 2 รอบ เพื่อให้พื้นผิวนั้นเรียบเนียน และมีประสิทธิภาพในการทนความร้อนมากที่สุด ซึ่งระยะเวลาในการทารอบแรกนั้นจะต้องปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง - 1 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อให้สีแห้งก่อนที่จะทาทับอีกครั้ง และระยะเวลาในการทารอบที่ 2 หรือการทาทับนั้นจะต้องปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 6-10 ชั่วโมง เพื่อให้ฟิล์มสีนั้นแห้งสนิทมากที่สุด

สีทนความร้อน เป็นสีที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ชิ้นงาน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องอยู่กับความร้อนตลอดเวลาได้รับความเสียหาย และที่สำคัญจะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน พร้อมกับทาสีด้วยขั้นตอนการทาสีที่ถูกต้อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน