10 วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนให้อยู่หมัดด้วยตัวช่วยง่ายๆ

เวลาที่ทุกคนกลับบ้านมาเหนื่อยๆ ก็อยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ในบ้านที่เย็นสบาย แต่กลายเป็นว่ากลับมาบ้านแล้วต้องเจอกับอากาศภายในบ้านที่ทั้งร้อนและอบอ้าว จนชวนให้หงุดหงิดและพักผ่อนได้อย่างไม่สบาย แถมยังต้องจ่ายค่าไฟแพง เพราะเปิดแอร์หนีร้อนไปอย่างหนักหน่วงจนกระเป๋าเบาแฟ่บไปอีก

ก่อนจะพาไปหาสาเหตุของบ้านร้อน ทีโอเอเดาว่า ทุกคนน่าจะอยากรู้วิธีแก้ปัญหากันก่อน ดังนั้นเรามาเริ่มที่ 10 วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนแบบอยู่หมัดกันเลย!

1. เลือกหลังคาบ้านสีอ่อน

การเลือกทาหลังคาบ้านสีอ่อน เป็นวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ เพราะหลังคาบ้านสีอ่อนนั้นเป็นสีสว่าง จึงไม่สะสมความร้อน ไม่ดูดกลืนแสงบางชนิด และไม่ดูดซับความร้อนเท่ากับหลังคาสีทึบ สามารถทำการสะท้อนแสงออกไปจากตัวบ้านได้เป็นอย่างดี วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนได้มากยิ่งขึ้นเมื่อคุณเลือกใช้สีทาหลังคากันความร้อน และเพิ่มเติมด้วยการเลือกสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติเป็นสีสะท้อนความร้อน คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง หลายคนไม่รู้นะว่าสีก็ช่วยกันความร้อน และสะท้อนความร้อนได้เหมือนกัน

2. ติดตั้งฉนวนกันความร้อน

การติดตั้งฉนวนกันความร้อนเป็นอีกวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อน โดยเราจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนไว้ที่ใต้หลังคา หรือผนังบ้าน เพื่อป้องกันบ้านร้อนจากภายนอก และเก็บความเย็นไว้ภายในบ้าน นอกจากการติดตั้งฉนวนกันความร้อนแล้ว ยังสามารถเสริมแผ่นยิปซั่มที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความร้อน อย่าง ทีโอเอ ยิปซัม แผ่นกันร้อน (TOA Heartproof) เพื่อป้องกันความร้อนที่แผ่ลงมาจากด้านบนหลังคาได้อีกด้วย เรียกได้ว่าใส่เกราะป้องกันไม่ให้บ้านร้อนแบบสองชั้นเลยทีเดียว 

3. ทาสีผนังสะท้อนความร้อน

การทาสีผนังด้วยสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติในการช่วยสะท้อนความร้อน ก็เป็นอีกวิธีการแก้ปัญหาบ้านร้อนที่สามารถทำได้ง่ายๆ วิธีการนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผนังบ้านนั้นดูดซับและสะสมความร้อนเก็บไว้ภายในบ้าน พร้อมกับช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นขึ้น ซึ่งการจะทาสีบ้านเพื่อช่วยลดปัญหาบ้านร้อนนั้น ควรเริ่มจากการทาสีรองพื้นที่มีคุณสมบัติกันความร้อนก่อน แล้วจึงค่อยทาสีทาทับหน้าที่ช่วยกันความร้อน (สีทับหน้า คือ สีจริงที่จะโชว์เฉดสีออกมา) ขอแนะนำให้เลือกทาด้วยสีทับหน้าที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน เพื่อช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อน จากทีโอเอ ตามมาดูรายละเอียดปลีกย่อยของคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้กันได้เลย

TOA SuperShield

ซุปเปอร์ชิลด์ เป็นสีทาทับหน้ากันความร้อนที่มีฟิล์มสีให้เลือกมากถึง 3 แบบ ได้แก่ ฟิล์มสีแบบเงา แบบกึ่งเงา และแบบด้าน โดยมีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนมากถึง 96.7% แถมยังยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีเยี่ยม ทนทาน ไม่หลุดล่อนง่าย สามารถปกป้องบ้านได้จากทุกสภาวะ

TOA Shield-1

ทีโอเอ ชิลด์-วัน อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในสีตระกูลแกร่งของชิลด์ซีรี่ส์ เป็นสีทาทับหน้ากันความร้อนที่มีฟิล์มสีให้เลือกมากถึง 3 แบบเช่นกัน ได้แก่ ฟิล์มสีแบบเนียน แบบกึ่งเงา และแบบด้าน สามารถสะท้อนความร้อนได้มากถึง 96.2% ถูกเรียกว่าเป็นสีกันคราบ ที่ทนทานต่อเชื้อรา และทนทานต่อการเกิดตะไคร่น้ำ แถมตอนนี้ ทีโอเอ ชิลด์-วัน มีการปรับปรุงสูตรขึ้นมาใหม่ ช่วยให้ทนทานต่อเชื้อรา และตะไคร่น้ำ ได้ดีกว่าเดิมถึง 2 เท่า

TOA 4 Seasons

สีทนได้ สีโฟร์ซีซั่นส์ สีทาบ้านขวัญใจมหาชน ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สีที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนเป็นสีทาทับหน้ากันความร้อนที่มีฟิล์มสีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ ฟิล์มสีแบบด้าน และฟิล์มสีแบบกึ่งเงา สามารถสะท้อนความร้อนได้มากกว่า 95% และช่วยลดอุณหภูมิพื้นผิวได้มากถึง 12% แถมยังทำความสะอาดได้ง่าย และสามารถทนทานต่อทุกสภาวะอากาศได้มากกว่าสีทั่วไปถึง 4 เท่า

4. ทาสีภายในบ้านด้วยสีโทนเย็น

วิธีแก้ไขปัญหาบ้านร้อนด้วยการทาสีภายในบ้านด้วยสีโทนเย็น เช่น สีขาวโทนเย็นๆ อย่างรหัสสี TOA 7219 (Edge of Down) และขาวโทนเจือมวงเบาๆ เช่น TOA 7188 (Lilac Breeze) หรือ โทนสีเขียวสวยๆ รหัสสี TOA 8354 (Soft Spruce ) และ TOA 8340 (Whispering Waterfall) ก็จะช่วยมอบความรู้สึกปลอดโปร่ง ไม่ทึบ และไม่อึดอัด ให้ความรู้สึกว่าบ้านเย็น ไม่ร้อนหรือดูเฉดสีโทนเย็นอื่นๆ ที่ทุกคนชื่นชอบได้ ที่นี่

5. เลือกวัสดุปูพื้นบ้านที่ช่วยคลายร้อน

การปูพื้นบ้าน เป็นวิธีแก้ไขปัญหาบ้านร้อนที่ช่วยให้อากาศในบ้านร้อนน้อยลงได้ โดยการเลือกใช้วัสดุในการปูพื้นบ้านที่ให้ความเย็น เช่น หินอ่อน หินแกรนิต กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องพอร์ซเลน หรือกระเบื้องดินเผา ฯลฯ พร้อมกับเลือกใช้ปูนกาวปูกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง และเหมาะกับวัสดุกระเบื้อง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของกระเบื้องให้นานยิ่งขึ้น

6. ปรับตำแหน่งวางเฟอร์นิเจอร์

การปรับตำแหน่งวางเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกต้อง หรือการวางเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกต้องตามทิศทางของลมและแสงแดด เช่น ไม่วางเฟอร์นิเจอร์อย่างตู้ ชั้นวางต่างๆ ปิดหน้าต่าง เปิดช่องให้ลมพัดเข้าถึงตัวบ้านได้ ไม่มีสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์ไปบังทิศทางลมและแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึง ดูปลอดโปร่ง ไม่ทึบ ทำให้อากาศภายในบ้านไม่ร้อนอบอ้าวและอากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น

7. ติดตั้งอุปกรณ์กันแดด

การติดตั้งอุปกรณ์กันแดด เช่น ผ้าม่าน มู่ลี่ ฟิล์มกันแดด ผ้าใบบังแดด หรือสติกเกอร์สำหรับติดกระจก เป็นวิธีแก้ไขปัญหาบ้านร้อนที่สามารถช่วยกันแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามาภายในบ้านโดยตรง และสามารถช่วยลดการสะสมความร้อนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลให้อากาศภายในบ้านไม่ร้อนอบอ้าว แถมยังไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ทำให้ประหยัดพลังงาน และค่าใช้จ่ายอีกด้วย

8. ติดตั้งกันสาดช่วยกันความร้อน

การติดตั้งกันสาดนั้นเป็นวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ไม่ได้ติดตั้งเพื่อช่วยแค่กันฝนเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยกันแสงแดด และความร้อนได้อีกด้วย โดยเลือกติดตั้งกันสาดที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และไม่ดูดซับความร้อน พร้อมกับเลือกติดตั้งขนาดกันสาดให้เหมาะสมกับหน้าต่าง หรือตัวบ้าน เพื่อให้ช่วยกันฝน และกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้บ้านของทุกคนนั้นยังคงสวยงามเช่นเดิม

9. ปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้าน

การปลูกต้นไม้ในบริเวณรอบบ้านเป็นวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ดีเลยทีเดียว เพราะว่าต้นไม้นั้นจะช่วยให้ร่มเงากับบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องเข้าถึงบ้านได้โดยตรง แถมยังช่วยดูดซับความร้อน ลดอุณหภูมิให้กับตัวบ้านอีกด้วย จึงทำให้ทุกคนรู้สึกว่าภายในบ้านนั้นเย็น และสดชื่นมากขึ้นนั่นเอง

10. เปิดหน้าต่างบ้านรับลมเป็นประจำ

การเปิดหน้าต่างบ้านให้รับลมเป็นประจำ ก็เป็นอีกวิธีแก้ไขปัญหาบ้านร้อนที่สามารถทำได้ทุกวัน โดยเปิดหน้าต่างในช่วงที่แสงแดดไม่แรง หรือในช่วงที่มีลมผัดผ่าน เพื่อให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทสะดวกมากขึ้น พร้อมกับช่วยระบายความร้อนที่สะสมไว้ จึงทำให้บ้านเย็นขึ้น และไม่รู้สึกอบอ้าว

ทั้งนี้ หลายๆ คนก็ได้วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนกันไปแล้ว มาดูสาเหตุกันบ้างดีกว่า จะได้ทำความเข้าใจว่า บ้านร้อนนั้นเกิดจากอะไร เผื่อจะได้นำมาปรับใช้ให้บ้านเราเย็นขึ้นได้อีก

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อน?

หลายๆ คนอาจจะกำลังสงสัยว่า ทำไมบ้านของเราถึงร้อนกว่าบ้านคนอื่น? และสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนนั้นเกิดจากอะไรกันแน่? ดังนั้น ทาง TOA จึงได้เตรียมคำตอบ เพื่อคลายทุกข้อสงสัยของทุกคนมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยสาเหตุที่ทำให้บ้านของทุกคนร้อนนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

หลังคาบ้านไม่กันความร้อน

หลังคาบ้าน ถือว่าเป็นส่วนที่ได้รับความร้อนโดยตรงมากที่สุด ถ้าหากหลังคาบ้านไม่กันความร้อน หรือเลือกใช้วัสดุที่ทำหลังคาบ้านแบบไม่กันความร้อน ก็จะทำให้บ้านร้อนง่ายกว่าปกติ และร้อนมากกว่าบ้านที่ใช้หลังคาแบบกันความร้อนอีกด้วย

ผนังบ้านดูดซับความร้อน

ผนังบ้าน เป็นอีกส่วนที่ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ไม่แพ้หลังคาบ้านเลยทีเดียว เพราะว่าผนังบ้านส่วนใหญ่จะไม่มีฉนวนกันความร้อน หรือไม่ได้ทาสีกันความร้อนที่ผนัง จึงทำให้ผนังบ้านดูดซับความร้อน และเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนได้ง่าย และร้อนกว่าปกตินั่นเอง

ฝ้าเพดานเตี้ยเกินไป

ฝ้าเพดานเตี้ยเกินไป เป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนได้ง่าย และดูอึดอัดทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และในเชิงการอยู่อาศัยจริงๆ เพราะว่าความร้อนไม่สามารถลอยตัวขึ้นไปได้ ทำให้ความร้อนต้องลอยตัวต่ำ และลอยตัวใกล้กับผู้พักอาศัยมากขึ้น ทำให้รู้สึกร้อนได้ง่ายโครงบ้านที่มีฝ้าเพดานสูง และรู้สึกว่าอากาศอบอ้าวกว่าปกติ

แต่การปรับฝ้าเพดานให้สูงขึ้นนั้นก็ดูเป็นเรื่องยาก วิธีแก้ปัญหานี้ได้ คือ การยิปซัมกันความร้อน ที่ถึงแม้ว่าจะติดเพดานเตี้ยแค่ไหน คุณสมบัติของแผ่นยิปซัมนั้นก็จะช่วยสะท้อนความร้อนออกไป และจะไม่ส่งความร้อนเข้ามายังภายในบ้านด้วย

จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ดี

ยิ่งกว่าวางฮวงจุ้ยผิดทิศ คือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ดี บังทิศทางลมจนทำให้บ้านร้อนได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เพราะว่าตำแหน่งที่วางเฟอร์นิเจอร์อาจจะบังแสงสว่าง หรือบังทิศทางลม จึงทำให้บ้านไม่มีอากาศถ่ายเท และมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ส่งผลให้บ้านร้อน และดูอึดอัดเป็นอย่างมาก

ไม่ติดตั้งอุปกรณ์กันแดด

การไม่ติดตั้งอุปกรณ์กันแดดอย่างเช่น ผ้าม่าน หรือมู่ลี่ ในบริเวณหน้าต่าง หรือจุดที่แสงแดดสามารถส่องเข้าถึงตัวบ้านได้ ก็จะทำให้ภายในบ้านนั้นได้รับความร้อนมากกว่าปกติ เพราะว่าโดนแสงแดดส่องเข้ามาในบ้านเป็นเวลานาน และส่งผลให้บ้านร้อนได้ง่าย และอบอ้าวเป็นอย่างมาก

บริเวณบ้านไม่มีพื้นที่สีเขียว

บ้านที่ในบริเวณบ้านไม่มีพื้นที่สีเขียวจะไม่มีตัวช่วยในการดูดซับความร้อน และช่วยลดอุณหภูมิบริเวณบ้านให้เย็นขึ้น ทำให้ความร้อนเข้าสู่บ้านโดยตรง ส่งผลให้บ้านร้อนได้ง่ายมากขึ้น ดูแห้งแล้งแถมยังอึดอัดกว่าปกติอีกด้วย

อากาศถ่ายเทไม่สะดวก

สำหรับบ้านที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือไม่มีตัวช่วยในการระบายอากาศภายในบ้าน สามารถส่งผลให้ภายในบ้านนั้นมีอากาศร้อนกว่าปกติ ดูทึบ อึดอัด และอุดอู้ โดยส่วนใหญ่สาเหตุนี้มักจะเกิดจากพฤติกรรมของผู้พักอาศัยภายในบ้าน เช่น ไม่ทำความสะอาดผ้าม่าน มุ้งลวด หรือมู่ลี่ จนเกิดการสะสมของฝุ่น ทำให้ลมไม่สามารถพัดผ่านเข้ามาได้ เป็นต้น    

ปัญหาบ้านร้อน ถือว่าเป็นปัญหากวนใจสำหรับหลายๆ คนอย่างแน่นอน โดยปัญหานี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาบ้านไม่กันความร้อน ผนังบ้านดูดซับความร้อน จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ดี หรือไม่มีอุปกรณ์กันแดด ดังนั้น ทุกคนจึงไม่ควรมองข้ามปัจจัยเหล่านี้ และควรแก้ปัญหาบ้านร้อนในทันทีด้วยวิธีข้างต้นที่ได้นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อให้สมาชิกทุกคนสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้อย่างสุขสบายมากขึ้น