10 ไอเดียแมตช์โทนสีร้อน-เย็นหลากสไตล์ แต่งบ้านง่าย ไม่หลุดธีม

โทนสี และการจับคู่สีเป็นตัวช่วยหลักที่จะทำให้บ้านดูมีมิติ ไม่ว่าจะเป็นสีโทนร้อนโทนเย็น ก็จะทำให้บรรยากาศของบ้านเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะโทนสีแต่ละแบบก็จะให้อารมณ์ ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้ จะบอกเทคนิคการจับคู่โทนสีภายในบ้าน ว่าควรจับคู่แบบไหนบ้านถึงจะดูดี ไม่หลุดธีม และตอบโจทย์กับความต้องการของผู้อยู่อาศัย

 

สีโทนร้อนสีโทนเย็นคืออะไร? และมีสีอะไรบ้าง?

ก่อนอื่นมารู้จักสีโทนร้อนโทนเย็นกันก่อน โทนสีนั้นได้มีการแบ่งหมวดหมู่ตามอารมณ์ความรู้สึกที่มีคนส่วนใหญ่จะต่อสีนั้นๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

สีโทนร้อน

สีโทนร้อนได้แก่สีอะไรบ้าง? สีโทนร้อน คือ สีที่ให้อารมณ์ ความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น อบอุ่น ร้อนแรง รวมถึงเป็นสีที่มีความโดดเด่น ดึงดูดสายตา สีโทนร้อนจะเป็นสีที่อยู่ในหมวดสีแดง-เหลือง ได้แก่

• สีแดง ให้ความรู้สึกร้อนแรง น่าดึงดูด เป็นสีของความรัก ความหลงใหล
• สีส้มแดง ให้ความรู้สึกทั้งสดใส แต่ก็ร้อนแรง
• สีส้ม เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสว่าง สดใส
• สีม่วงแดง สีที่ทั้งผสมความรู้สึกร้อนแรงและลึกลับในสีเดียวกัน

สีโทนเย็น

สีโทนเย็น คือ สีที่ให้อารมณ์ ความรู้สึกที่สงบ เยือกเย็น น่าค้นหา จนถึงให้ความรู้สึกสดชื่น และมีชีวิตชีวา สีโทนเย็นจะเป็นสีที่อยู่ในหมวดสีน้ำเงิน-เขียว ได้แก่

• สีเหลืองเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น และกระฉับกระเฉง
• สีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น สบายตา และมีชีวิตชีวา
• สีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกสงบ ราบเรียบ
• สีน้ำเงินม่วง เป็นสีที่ให้ความรู้สึกที่สงบ แต่ก็ลึกลับน่าค้นหา

สีโทนกลาง

นอกจากสีโทนร้อนโทนเย็นแล้ว ยังมีโทนสีอีกกลุ่มหนึ่งที่หลายๆ คนอาจไม่คุ้นชื่อกันก็ คือ สีโทนกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างสีโทนเย็นและสีโทนร้อนในวงกลมสี ถือเป็นโทนสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการออกแบบในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสีโทนกลางสามารถใช้ตกแต่งบ้านให้ดูสมูท ดูเข้ากันไม่ว่าจะเป็นการจับคู่สีโทนกลางกับสีโทนร้อนหรือเย็น ซึ่งสีโทนกลาง ประกอบด้วย 2 สี คือ

• สีเหลือง ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง มีพลังงานสูง
• สีม่วง ให้ความรู้สึกหรูหรา ลึกลับ น่าค้นหา

หลักการใช้สีแบบ 80:20 สร้างความโดดเด่นให้กับบ้านอยู่อาศัย

ในการตกแต่งบ้าน มักใช้หลักการใช้สีแบบ 80:20 ซึ่งวิธีนี้คือ การเลือกใช้วรรณะของสี เพื่อมาตกแต่งบ้าน  เช่น หากต้องการตกแต่งบ้านด้วยสีวรรณะร้อนก็ให้ตกแต่งไปในสัดส่วน 80 และให้ใช้สีวรรณะเย็นเพียง 20 เพื่อสร้างจุดเด่นออกมา แต่มีข้อควรระวัง คือ การใช้สีในจำนวนที่มากเกินไปอาจทำให้ลายตาได้ นอกจากนี้ หากมีสัดส่วนของสีที่ใกล้เคียงกันมาก อาจเลือกใช้สีดำ หรือขาวเข้ามาตกแต่งร่วมด้วย

โดยวรรณะของสีนั้น ก็คือ โทนสีที่ทุกคนเพิ่งอ่านกันไปนั่นเอง มาลองดูตัวอย่างการจัดบ้านด้วยการจับคู่สีโทนร้อน-เย็นกันดีกว่า

 

แนะนำ 10 ไอเดียแมตช์สีโทนร้อน-เย็น ให้เหมาะกับแต่ละส่วนของบ้าน

สำหรับใครที่กำลังอยากหาไอเดียการแต่งบ้านด้วยสีโทนร้อน-โทนเย็นให้เหมาะสมนั้น วันนี้ทางทีโอเอรวบรวม 10 ไอเดียแมตช์สีโทนร้อน-โทนเย็นมาฝากกัน

1. สีขาวกับสีม่วง

สีขาวกับสีม่วง เป็นอีกหนึ่งสียอดฮิตที่เหมาะกับตกแต่งห้องนอน เพื่อความรู้สึกผ่อนคลาย สามารถเลือกใช้สีซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส โดยเลือกสีขาวเจือครีมนิดๆ อย่างเฉดสีกลุ่มออฟไวท์ TOA 8004 Thistle Down เป็นสีหลักตัดกับ สีม่วงพาสเทลนิดๆ อย่าง TOA 7177 Lavender Lake เป็นสีรอง

2. สีชมพูกับสีน้ำตาล

สีชมพูกับสีน้ำตาล เป็นอีกคู่สีหนึ่งที่คนนิยมใช้ โดยการใช้ทั้งสีน้ำตาล และสีชมพูร่วมกันจะให้ความรู้สึกที่อ่อนโยน น่ารักอบอุ่น เหมาะกับใช้ทาในห้องนั่งเล่นให้ดูอบอุ่นและผ่อนคลาย อาจวางของตกแต่งน่ารักๆ เช่น ตุ๊กตาหมี แจกันดอกไม้ เพื่อเพิ่มความรู้สึกอ่อนหวานเข้าไป สามารถเลือกใช้สีโฟร์ซีซั่นส์ สําหรับภายใน โดยเลือกสีชมพู TOA 8635 Fresh Air เป็นสีหลัก ตัดกับสีน้ำตาล TOA 8552 Swiss Cream​

3. สีเทากับสีน้ำเงิน

สีเทากับสีน้ำเงิน ทั้งสองสีเป็นสีที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ไม่ร้อนแรง ซึ่งจะทำให้บรรยากาศดูเย็น และสบายตา เหมาะกับการใช้ตกแต่งในตัวห้องนอนให้รู้สึกเย็นสบาย ให้ความรู้สึกสงบ แต่ก็ยังมีความน่าค้นหา เหมาะสำหรับสายมินิมอล หรือสายคุมโทนที่ต้องการเนรมิตห้องนอนให้ดูสะอาด เรียบแต่มีระดับ โดยเลือก กระเบื้องปูพื้นสีเทาหรือลายหินอ่อน เพื่อตัดกับผนังสีน้ำเงิน

4. สีเขียวกับสีน้ำตาล

สีเขียวกับน้ำตาล เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและกำลังหาไอเดียรีโนเวทห้องนอน เพราะสีเขียวให้ความรู้สึกสบายตา ร่มเย็น จึงเป็นสีที่เหมาะกับการจัดห้องพักผ่อน ลองจับคู่เฟอร์นิเจอร์ไม้โชว์ลายสีน้ำตาลอ่อนๆ อย่างไม้เบิร์ช หรือไม้แอชเนื้อแข็ง คู่กับสีเขียวตุ่นๆ ที่ไม่มืดจนเกินไปอย่าง TOA 8370 Rain Mist ห้องก็จะดูสบายตาน่าอยู่

5. สีเหลืองกับสีน้ำเงิน

สีเหลืองกับสีน้ำเงิน เป็นการจับคู่ในสีโทนเย็นและสีโทนกลางไว้ด้วยกัน ซึ่งจะเป็นคู่สีที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง แต่เย็นสบาย เหมาะกับการตกแต่งในพื้นที่ที่ต้องการเพิ่มความสดใส เหมาะสำหรับตกแต่งห้องครัว เพราะเป็นการเพิ่มแสงสว่างให้บรรยากาศในห้องให้ดูร่าเริง และสบายตา เพื่อเป็นพื้นที่ที่ทางครอบครัวใช้เวลากินอาหารร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยขอแนะนำสีโฟร์ซีซั่นส์ สําหรับภายใน สีเหลืองลองใช้ TOA 7861 Under the Sun จับคู่กับสี TOA 7361 Lupe's Lake

6. สีแดงกับสีเขียว

สีแดงกับสีเขียว เป็นการจับคู่สีที่ให้ความรู้สึกสดใส รื่นเริง เต็มไปด้วยพลัง แต่ก็สดชื่น ซึ่งจะเหมาะกับการใช้ตกแต่งห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในบ้าน ตัวสีเขียวเมื่อตัดกับสีแดงจะทำให้ห้องนั่งเล่นดูสดใส มีชีวิตชีวา ขอแนะนำสีโฟร์ซีซั่นส์ สําหรับภายใน ให้ใช้สีหลักเป็นสีแดง TOA 8070 Rosy Red และใช้สีรองเป็นสีเขียว TOA 7695 Tropical Tempo

7. สีส้มกับสีน้ำเงิน

สีส้มกับสีน้ำเงิน เป็นไอเดียการจับคู่สีโทนตรงข้ามยอดนิยม ซึ่งทั้งสองสีเป็นสีโทนตรงข้ามกัน ที่สีส้มเป็นสีโทนร้อน แต่สีน้ำเงินเป็นสีโทนเย็น เมื่อจับคู่กันจะทำให้รู้สึกสดใสและสงบ ถึงจะให้ความรู้สึกตรงข้ามแต่ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวกัน อย่างในภาพที่ใช้ผนังเป็นสีน้ำเงิน TOA 7312 Rio Grande Ridge ซึ่งเป็นสีน้ำเงินตุ่นๆ ออกพาสเทด้วยนิดๆ แล้วดึงสายตาด้วยโซฟาสีส้มครีม ถ้าเทียบรหัสเฉดสีออกมาก็จะใกล้เคียงกับสีส้ม TOA 7968 Citrus Sherbet

8. สีแดงกับสีขาว

สีแดง R2061 Really Red กับสีขาวเจอเทานิดๆสุดฮิต อย่าง TOA 8292 Quick Silver จะทำให้ห้องเพิ่มบรรยากาศที่กระปรี้กระเปร่า ลองเลือกใช้คู่สี 2 สีนี้ สำหรับห้องออกกำลังกายเพิ่มความกระฉับกระเฉง สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเลือกสียี่ห้อไหนดี แนะนำสีทาภายใน ทีโอเอ ออร์แกนิค แคร์ สีทาบ้านภายในที่มีกลิ่นอ่อนมากๆ และมีการเลือกใช้ส่วนผสมจากพืชเพื่อลดการใช้ส่วนผสมจากปิโตรเคมี

9. สีเหลืองกับสีขาว

สีเหลืองกับสีขาว ถือเป็นอีกคู่สีที่เหมาะกับการใช้ตกแต่งห้องนั่งเล่น เพราะสีเหลืองเป็นสีที่สดใส แต่ก็ไม่ร้อนแรงจนเกินไป ในขณะที่สีขาวเป็นสีที่เพิ่มความสว่างภายในห้อง ซึ่งขอแนะนำสีของซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส สีเหลือง Y0035 Buttery คู่กับสีขาวยอดฮิต TOA 8794 White Hush

10. สีฟ้ากับสีชมพู

สีฟ้ากับสีชมพูก็คู่กันได้ อย่างสีฟ้า B4024 Silk Blue คู่กับสีชมพู TOA 8318 Baby Blush หากต้องการนำคู่สีนี้ไปแมตช์ในห้องน้ำ คุณสามารถหาซื้อกระเบื้องเฉดสีชมพู หรือสีฟ้าอ่อนๆ แทนการทาสีบริเวณผนังล่างก็ได้เช่นกัน สีฟ้าจะช่วยให้รู้สึกมีอิสระ เหมือนได้รับการปลดปล่อย ส่วนสีชมพูจะช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนหวาน จะทำให้บรรยากาศในห้องน้ำดูน่าใช้งาน และไม่มืดมัวจนเกินไป

เคล็ดลับการใช้สีตกแต่งบ้าน

หลังจากที่ได้ไอเดียการแมตช์สีโทนร้อนโทนเย็นไปแล้วนั้น จะเห็นว่าสีทาบ้านเป็นอีกตัวช่วยที่มาเปลี่ยนบรรยากาศภายในและนอกบ้านให้ดูสวย น่าอยู่ ช่วยเปลี่ยนบ้านธรรมดาๆ ให้ดูดียิ่งขึ้น ดังนั้น วิธีเลือกสีทาภายในให้เหมาะสมกับตัวบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยควรเลือกสีหลักสีรองให้เหมาะสม เน้นสีที่อ่อนกว่าเป็นสีหลัก เพราะสีอ่อนช่วยให้ดูสบายตา ไม่มืดครึ้ม ช่วยสร้างบรรยากาศของบ้านให้ดูสดใส น่าอยู่ และในส่วนของสีรองนั้น จะเป็นสีที่ช่วยขับให้สีหลักดูเด่น และมีมิติมากขึ้น จากห้องที่เป็นสีเดียว ธรรมดา สามารถมีลูกเล่นด้วยการใช้สีรองประกอบ

อีกเคล็ดลับที่จะช่วยให้สีติดทนทานได้นาน คือ การเลือกผลิตภัณฑ์สีทาภายในที่มีคุณภาพ โดยขอแนะนำ 2 ผลิตภัณฑ์สีทาบ้านชั้นนำจากทีโอเอ

• ทีโอเอ ออร์แกนิค แคร์ เป็นสีน้ำอะคริลิกที่มีส่วนผสมจากพืช ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อเน้นความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโรคหอบหืดและภูมิแพ้ ที่สำคัญยังได้มาตราฐานการรับรอง BioPreffered จาก USDA สหรัฐอเมริกา
• ซุปเปอร์ชิลด์ ดูราคลีน เอ พลัส ที่มาพร้อมกับคุณภาพที่เหนือกว่า ด้วยไมโครแบนที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ได้รับการรับรองผ่านมาตรฐาน Ultra Low VOCs ในระดับ A+ จากยุโรป

 

 

“โทนสี” เป็นตัวช่วยในการตกแต่งบ้าน เปลี่ยนบ้านเดิมๆ ให้ดูมีสีสัน มีชีวิตชีวา น่าอยู่ด้วยการนำสีโทนร้อน-โทนเย็นมาแมตช์ให้เข้ากับบ้านของตนเอง เช่น การจัดห้องนอนด้วยสีสบายๆ อย่างสีขาวกับสีม่วง จะช่วยปรับบรรยากาศห้องนอนให้ดูผ่อนคลาย น่าพักผ่อน และสำหรับใครที่กำลังมองหาตัวเลือกสีทาบ้านดีๆ ทีโอเอมีผลิตภัณฑ์สีทาภายในและภายนอก ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรีย หรือมีคุณสมบัติทนต่อสภาวะอากาศร้อนให้เลือกใช้งาน