สีทาบ้านกลิ่นอ่อนมาก ลดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้บ้านสีสวยถูกใจ

การทาสีบ้านในภาพจำของใครหลายๆ คนก็คงจะไม่พ้นกลิ่นเหม็นฉุนชวนปวดหัว จะทาทีไรก็ต้องเตรียมรับมือกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของสีทาบ้าน แต่ปัจจุบันสีทาบ้านได้มีการพัฒนาและเล็งเห็นปัญหานี้ เพราะกลิ่นที่เหม็นฉุนไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหารำคาญเท่านั้น แต่กลิ่นเหล่านั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย TOA Organic Care จากทาง TOA จึงคิดค้นเทคโนโลยี พร้อมการทดแทนสารเคมีด้วยวิธีใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นฉุน ให้มาเป็นสีทาบ้านที่กลิ่นอ่อนมาก ให้ทุกคนได้ใช้กัน

ทำไมเมื่อก่อนสีทาบ้านถึงมีกลิ่นเหม็นฉุน 

ปัจจัยที่ทำให้สีทาบ้านในสมัยก่อนส่งกลิ่นเหม็น มีกลิ่นฉุนรุนแรง เพราะสารเคมีต่างๆ ที่ผสมอยู่ในสีทาบ้าน สีน้ำอะคริลิกสำหรับทาบ้าน หรือสีน้ำมันสำหรับทาไม้ทาเหล็ก โดยสารเคมีที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นฉุน และเป็นอันตรายต่อร่างกาย มีดังนี้

สารนำสี (Binder Agent)

สารนำสีถือเป็นสารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เนื่องจากเป็นสารที่ถูกออกแบบมาให้ยึดเกาะสีเข้ากับพื้นผิวของผนังในรูปแบบของเหลว มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อแห้งแล้วจะเรียบสนิทและคงทน โดยถ้าสารนำสีเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และระคายเคืองได้

ผงสี (Pigment)

ผงสี เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสีสันตกแต่งเพื่อความสวยงาม โดยผงสีจะมีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกันคือ ผงสีแบบอินทรีย์ เป็นผงสีที่มีส่วนประกอบหลักคือคาร์บอน ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ และสารอนินทรีย์ที่มีส่วนผสมของโลหะต่างๆ เช่น ทองแดง เมื่อได้รับสารชนิดนี้เข้าไป จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเกิดความล้มเหลวจากสารพิษในโลหะหนัก

ตัวทำละลาย (Solvents)

ตัวทำละลายคือ สารเคมีที่ทำให้เนื้อสีไม่ข้น ทาสีได้ง่ายขึ้น ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนผสมสำคัญคือ โทลูอีน (toluene) เป็นอัตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลเสียต่อระบบประสาทผ่านการแทรกซึมทางลมหายใจหรือผิวหนัง ทำให้เกิดสารพิษในร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มีอาการสับสน เพ้อคลั่ง และอาการทางจิตประสาทหลอนได้นั่นเอง

สารปรุงแต่ง (Additives)

สารปรุงแต่งหรือสารเติมแต่งคือ สารที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับสีทาบ้าน เช่น เพิ่มแรงยึดเกาะให้มากขึ้น โดยสารเหล่านี้จะมีส่วนผสมของสารโลหะที่เป็นพิษอยู่ เช่น สารปรอท หรือสารตะกั่ว จึงทำให้เมื่อได้รับสารในปริมาณที่มากเกินไป อาจเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร รู้สึกคลื่นไส้วิงเวียนได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ได้เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้ไม่เกินที่ มอก. กำหนด หรือเลือกใช้สีทาภายในที่มีกลิ่นอ่อน ไร้สารเติมแต่งกลิ่น

สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds)

สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือที่รู้จักในชื่อของสาร VOCs เป็นสารที่กระจายตัวหรือระเหยตัวได้ง่าย มักพบได้ในสีทาบ้านทั่วไป โดยสารชนิดนี้จะทำเกิดมลภาวะทางอากาศและส่งผลเสียต่อระบบสุขภาพต่างๆ ได้ เช่น การทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อาการวิงเวียนศีรษะ หรืออ่อนเพลีย เป็นต้น

สีทาภายใน TOA Organic Care กลิ่นอ่อน ใหม่ล่าสุดจาก TOA

หากกำลังมองสีทาบ้าน ควรเลือกสีทาบ้านที่มีกลิ่นอ่อน แต่ยังคงคุณภาพดี ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ สีทาภายใน TOA Organic Care ไม่เพียงเพียงแต่มีสีสวยงามและคุณภาพดีเท่านั้น แต่ยังเน้นความปลอดภัยและมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สีทาภายใน TOA Organic Care ดีกว่าอย่างไร

TOA Organic Care จากทาง TOA ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ว่าจะได้ใช้สีที่ปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ พร้อมกับความทนทานต่อสภาพแวดล้อม และยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างถึงที่สุด โดยจุดเด่นของ TOA Organic Care ที่แตกต่างจากสีทาบ้านแบบธรรมดา มีดังนี้

กลิ่นอ่อน ปลอดภัย และสารระเหย VOCs 0%*

TOA Organic Care มีกลิ่นอ่อน ที่ไม่รบกวนการใช้ชีวิต และมีสารระเหย VOCs (สารเคมีที่ระเหยออกมาจากผลิตภัณฑ์) เป็น 0%* ซึ่งทำให้คุณปลอดภัยในการใช้งาน

ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับคนที่แพ้ง่าย 

TOA Organic Care เป็นสีทาภายในที่ได้รับการรับรองจากโครงการ Sensitive Choice ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับว่าปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนและภูมิแพ้ 

เช็ดล้าง ทำความสะอาดง่ายด้วย UltraClean Technology 

สีทาภายใน TOA Organic Care มาพร้อมกับเทคโนโลยี UltraClean ที่ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และได้รับมาตรฐานการทดสอบจาก มอก. 2321-2549 ว่ามีความทนทานต่อสภาวะอากาศ ซึ่งเกินกว่า 66 เท่าหรือ 200,000 รอบ 

ลดสาร Formaldehyde ในอากาศได้สูงถึง 90% 

สีทาภายใน TOA Organic Care สร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย ด้วยการช่วยลดสารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่เป็นสารก่อมะเร็งในอากาศได้สูงถึง 90% 

เป็นสีน้ำอะคริลิกที่มีส่วนผสมจากพืช มาตรฐาน USDA สหรัฐอเมริกา

สีทาภายใน TOA Organic Care มีส่วนผสมจากพืชที่ได้รับมาตรฐานจาก USDA (สำนักงานเกษตรและอาหารของสหรัฐอเมริกา) เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศ ช่วยลดการใช้ปิโตรเลียมและเป็นทรัพยากรทางเลือกจากธรรมชาติ 

ยับยั้งแบคทีเรีย และไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สีทาภายในกลิ่นอ่อน TOA Organic Care ผ่านการทดสอบเรื่องการยับยั้งไวรัส โดยไวรัสที่ส่งทดสอบได้แก่ Human coronavirus 229E, H1N1, Influenza A, H3N2, Influenza B, Enterovirus 71 (โรคมือเท้าปาก) โดยใช้วิธีทดสอบ TCID50 รับรองโดยมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาเวชศาสตร์เขตร้อน และจากวิธีทดสอบ JIS Z2801 รับรองโดย Microban พบว่า สามารถยับยั้งแบคทีเรียได้ถึง 99.99%

เฉดสีทาภายในกลิ่นอ่อน TOA Organic Care ที่อยากแนะนำ

นอกจาก TOA Organic Care จะเป็นสีทาภายในที่กลิ่นอ่อนมากๆ ไม่ฉุนแล้ว ยังมีเฉดสีให้เลือกมากมายให้เลือกซื้ออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโทนสีขาวหรือสีเทาที่ตกแต่งห้องง่าย ดูสวยงาม และเรียบเนียน ยกตัวอย่างเช่น 

ห้องทำงาน

สร้างบรรยากาศการทำงานแบบสบายๆ ไม่ตึงเครียด ควรเลือกเฉดสีห้องสีควันบุหรี่ในรหัส TOA 8308 Whispering Smoke ที่ไม่มืดและไม่สว่างจ้าจนเกินไป เสริมประสิทธิภาพในการโฟกัสการทำงานได้เป็นอย่างดี

ห้องนอน

ถือได้ว่าเป็นอีกหัวใจหนึ่งสำคัญของบ้าน เป็นห้องที่ใช้ในการพักผ่อน จบวันที่นี่และตื่นพร้อมรับวันใหม่ก็ที่ห้องนอนนี้ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้เลือกสีทาภายในที่มีกลิ่นอ่อน ไร้สารก่อภูมิแพ้ โทนขาวออฟไวท์ที่ใครๆ ก็หลงรัก อย่างสี TOA 8260 Mercury ที่ให้ความอบอุ่น แต่ไม่ขาวสว่างจนรบกวนสายตา ให้บรรยากาศยามตื่นนอนที่รู้สึกสงบ แต่ก็แฝงไปด้วยพลังเพื่อเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้แบบพอดีๆ

ห้องนั่งเล่น

หนึ่งในพื้นที่ใช้สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจหรือทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนในบ้าน สีขาวสว่างอย่าง BS100 ซึ่งเป็นสีเบอร์ที่มีขายแบบพร้อมใช้ไม่ต้องเข้าเครื่องผสมสี ถือว่าตอบโจทย์ความสวยงาม ส่วนฟังก์ชันเมื่อเลือกใช้ TOA Organic Care บอกเลยว่าคุณจะได้ห้องนั่งเล่นที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ แถมยังเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย เด็กๆ หรือน้องหมาน้องแมวจะซนแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวลว่าคราบสกปรกจะเช็ดออกยาก

ทาสีทาภายใน TOA Organic Care ให้ติดทน ต้องสนเรื่องรองพื้น

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะเลือกสีทาภายใน TOA Organic Care ไปเป็นสีทาบ้าน เพื่อลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นฉุนรบกวน อย่าลืมเลือกซื้อรองพื้นแห้งไว กลิ่นอ่อน อย่าง TOA HydroQuick Primer ในขั้นตอนของการรองพื้น เพราะ TOA HydroQuick Primer เป็นสีรองพื้นอเนกประสงค์ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องกังวลว่าพื้นผิวของผนังบ้านเราจะเป็นปูนเก่าหรือปูนใหม่ เพราะทาได้ทั้ง 2 แบบ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดเชื้อรา การเกิดคราบด่างเกลือ ที่สำคัญยังเป็นสีรองพื้นที่มีแทบจะไม่ส่งกลิ่นเหม็นฉุน เหมาะกับสีทาภายในที่มีกลิ่นอ่อนอย่าง TOA Organic Care เป็นอย่างดี

คำถามที่พบบ่อย

Q : สีทาภายใน TOA Organic Care ราคาเท่าไร?

A : สี TOA Organic ราคากลางอยู่ที่ 

• ขนาด 3.5 ลิตร 720 บาท 
• ขนาด 9 ลิตร 1,820 บาท 
• ขนาด 18 ลิตร 3,600 บาท

ราคาอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงเล็กน้อยกว่าราคากลาง ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าที่จำหน่าย

Q : สีไบโอเบส แตกต่างจากสีทั่วไปในท้องตลาดอย่างไร?

A : สีไบโอเบส (ฺBiobased) คือ เทคโนโลยีล่าสุดของสีที่ผลิตจากพืช ทดแทนการนำปิโตรเคมีมาใช้เหมือนสีทั่วไปในท้องตลาด ทำให้มีคุณสมบัติสุดยอดในทุกด้าน โดยสีทาอาคารที่ถือว่าเป็นเกรดไบโอเบสนั้น ต้องมีปริมาณส่วนผสมจากพืช และคุณสมบัติตามที่สถาบัน USDA สหรัฐอเมริกากำหนด และทดสอบในห้องแล็บอย่างเข้มงวด

Q : สีไบโอเบส ทำจากพืชแล้วเนื้อสีทนทานแค่ไหน?

A : สี TOA Organic care ได้ถูกนำไปทดสอบการเช็ดล้างและขัดถู ผลการทดสอบ* พบว่า TOA Organic care สามารถเช็ดล้างคราบสกปรกได้อย่างยอดเยี่ยม และหลังผ่านการขัดถูไปกว่า 200,000 รอบแล้ว สีของผนังยังไม่หลุดล่อน โดยเนื้อสีทนทานระดับเดียวกับ SuperShield Duraclean A+ ซึ่งเป็นสีทาภายในเกรดอัลตร้าพรีเมียมคุณภาพสูงสุดของ TOA

*ทดสอบโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย วิธีทดสอบ ASTM D 2486

Q : สี TOA Organic care ยับยั้งแบคทีเรียและไวรัสได้จริงหรือ?

A : สี TOA Organic care สามารถยับยั้งไวรัสได้ถึง 99.9% ภายใน 10 นาที* ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก 

*ทดสอบด้วยวิธี TCID50 รับรองโดยมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาเวชศาสตร์เขตร้อน ซึ่งไวรัสที่ส่งทดสอบมีดังนี้ Human coronavirus 229E, H1N1, Influenza A, H3N2, Influenza B, Enterovirus 71 (โรคมือเท้าปาก) สำหรับการยับยั้งแบคทีเรียได้ 99.9% รับรองโดย Microban ด้วยวิธีทดสอบ JIS Z2801

Q : สีไบโอเบสไร้กลิ่นจริงหรือ?

A : สี TOA Organic care ได้ถูกนำไปทดสอบในห้องแล็บเพื่อหาสารระเหยอย่างเข้มงวด ทั้งในออสเตรเลีย (Sensitive Choice), ยุโรป (Eurofins, Leed v4.1) และสหรัฐอเมริกา (USDA) ปรากฏว่า ค่า VOCs หรือสารระเหยอยู่ที่ 0.000002 g/m3 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานกว่าร้อยเท่า เป็นระดับที่จมูกคนทั่วไปยากจะได้กลิ่น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดสารฟอร์มัลดีไฮด์ได้ 90% ภายใน 24 ชั่วโมง (ทดสอบโดยสถาบัน Shanghai Environmental Monitoring Technical & Equipments Co., Ltd วิธีทดสอบ JC/T 1074-2008)