โพลียูรีเทนตัวช่วยปกป้องไม้จากรอยขีดข่วน กันซึม กันน้ำได้ดีเยี่ยม

หลายคนคงสงสัยเกี่ยวกับ “โพลียูรีเทน” ที่นอกจากจะมีอยู่ในสีทาไม้แล้ว ยังเห็นชื่อโพลียูรีเทนนี้อยู่ในกลุ่มเคมีภัณฑ์อย่างกันซึมด้วย  ก่อนอื่นต้องขออธิบายว่า โพลียูรีเทน (Polyurethane) หรือเรียกย่อๆ ว่า พียู (PU) คือ พอลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็นการผลิตกระดาษ ผ้าที่มีความทนทาน รวมถึงนำไปใช้เพื่อเคลือบโลหะและไม้ สำหรับบทความนี้เราจะมาพูดถึงโพลียูรีเทนที่นำมาใช้สำหรับงานไม้ ซึ่งค่อนข้างมีอยู่อย่างหลากหลาย มาดูกันว่า โพลียูรีเทนสำหรับงานไม้นั้นเป็นอย่างไร มีกี่แบบ และควรเลือกใช้อย่างไรถึงจะถูกต้องเหมาะสม

โพลียูรีเทนคืออะไร ?

โพลียูรีเทน จัดว่าเป็นสารเคลือบเงาที่เหมาะใช้งานกับไม้ โดยเฉพาะไม้จริงที่มีราคาสูง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทางด้านพื้นไม้ เพื่อที่ให้ไม้มีความทนทานต่อน้ำ ความร้อน การเสียดสี สารเคมี และแรงกระแทกต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีโพลียูรีเทนมีทั้งที่เป็นสูตรน้ำ สูตรน้ำมัน แบบ 1K และแบบ 2K ให้เลือกใช้

คุณสมบัติเด่นของโพลียูรีเทน

การใช้โพลียูรีเทนเคลือบเงาพื้นไม้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยโพลียูรีเทน จะมีคุณสมบัติเด่นๆ ดังนี้

• แข็งแรง ทนทาน เป็นพิเศษ

การใช้โพลียูรีเทนเคลือบพื้นไม้ จะทำให้พื้นผิวไม้ได้รับการปกป้อง เรียกได้ว่าเป็นการสร้างชั้นฟิล์มเคลือบแข็งให้กับพื้นไม้ ช่วยเสริมความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งปกติหน้าไม้ส่วนใส่จะแตกง่าย แต่ถ้าหากได้มีการเคลือบสารชนิดนี้จะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ ตัวไม้จะประสานกันและยึดกันแน่นมากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับแรงกระแทกก็จะสามารถทนทานได้ในระดับหนึ่ง

• ทนทานต่อน้ำ ไม่รั่วซึม

แน่นอนว่าการเคลือบไม้ที่สำคัญที่สุดก็คือการทนทานต่อน้ำ เพราะโดยปกติแล้วไม้จะเป็นแหล่งที่สามารถสะสมความชื้นได้เป็นอย่างดี เมื่อมีความชื้นมากๆ ก็อาจทำให้ไม้บวมได้

• ทนต่อรอยขีดข่วน

ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้แบบใดก็ตาม ทุกคนคงอยากจะให้ใหม่อยู่เสมอ การใช้สารเคลือบโพลียูรีเทน จะแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อมีการเคลือบจะเป็นการช่วยรักษาหน้าไม้ ทำให้พบว่าไม่มีรอยขีดข่วนแต่อย่างใด

• ทนต่อการเสียดสีได้ดี

ไม่แปลกใจว่าทำไมฟลอร์ลีลาศ ลานโบว์ลิ่ง ถึงเลือกใช้โพลียูรีเทนในการเคลือบแข็งพื้นไม้ เพราะโพลียูรีเทนมีคุณสมบัติที่สามารถทนต่อการเสียดสีได้ดี ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าของเหล่านักลีลาศ หรือลูกโบว์ลิ่งหนักๆ ที่ต้องกลิ้งไปเป็นระยะทางไกลๆ การเลือกเคลือบแข็งพื้นไม้โดยใช้โพลียูรีเทนนี่แหละเอาอยู่

ประเภทของโพลียูรีเทน

ก่อนที่จะพาทุกคนไปดูกันว่าโพลียูรีเทนมีกี่ชนิด และควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน ต้องรู้ก่อนว่าประเภทของโพลียูรีเทนนั้นมีกี่แบบ และแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

สูตรน้ำมัน

สูตรน้ำมันเมื่อทาลงไปที่เนื้อไม้แล้วจะทำให้สีของไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพันเล็กน้อย และยังเป็นการสร้างเกราะป้องกันเนื้อไม้ให้มีความแข็งแรง ทั้งนี้ สูตรน้ำมันจะใช้เวลาแห้งนานกว่าสูตรอื่นๆ แต่ฟิล์มที่เคลือบออกมาจะมีความแข็งแรง ทนทาน และมีโอกาสลอกน้อยมาก

สูตรน้ำ

สูตรน้ำบางผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดอาจจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนขุ่นๆ และเมื่อทาแล้ว ฟิล์มจะแห้งเป็นสีใส แต่สำหรับของทีโอเอ โพลียูรีเทนสูตรน้ำ จะให้ฟิล์มเคลือบแข็งที่มีสีอำพันอ่อนๆ ไม่ต่างจากโพลียูรีเทนสูตรน้ำมัน และในส่วนของกลิ่นสูตรน้ำจะเบาบางกว่าสูตรน้ำมันอยู่มากพอสมควร

ชนิดของโพลียูรีเทน เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับชิ้นงาน

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโพลียูรีเทนสำหรับเคลือบไม้นั้น มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ แต่ควรเลือกใช้ตามความถนัดของตนเองหรือตามความเหมาะสมของงาน ซึ่งในท้องตลาดทั่วไปสำหรับการเคลือบงานไม้มีทั้งแบบ 1 ส่วน (1K), 2 ส่วน (2K) และโพลียูรีเทนสูตรน้ำ ทั้งนี้ รายละเอียดของแต่ละแบบจะแตกต่างกันอย่างไร ก็มาดูพร้อมๆ กันได้เลย!

โพลียูรีเทนแบบ 1 ส่วน

แบบ 1 ส่วน หรือ 1K เหมาะสำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่ม หรือเจ้าของบ้านที่อยากลองลงมือทำด้วยตนเอง รวมทั้งคนที่ชอบความสะดวกสบาย เพราะเนื่องจากการใช้งานนั้นง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สำหรับทาง TOA เองก็มีผลิตภัณฑ์อยู่ 2 แบบให้เลือก คือ โพลียูรีเทน เกรดอัลตร้าพรีเมียม คุณภาพสูงสุด  และโพลียูรีเทนเกรดพรีเมียม คุณภาพสูง

โพลียูรีเทน เกรดอัลตร้าพรีเมียม คุณภาพสูงสุด

ใครที่เน้นเรื่องความทนทาน ทำครั้งเดียวอยู่กันไปยาวๆ ต้องเลือก โพลียูรีเทน เกรดคุณภาพสูงสุดจาก TOA พรีเมียม เพราะมีอายุการใช้งานที่อยู่ได้นานถึง 12 ปี โดยผลิตภัณฑ์เกรดอัลตร้าพรีเมียมมีทั้งหมด 2 ผลิตภัณฑ์ มีคุณสมบัติเด่นๆ เช่น ตัวเนื้อฟิล์มมีความคงทน แข็งแกร่ง ด้วยสาร Super Synthetic Polyresin จากอิตาลี, ทนทานต่อแรงกระแทก การขูดขีด ทนต่อสารเคมี และความร้อนได้มากสุดถึง 60°C, สามารถป้องกันแบคทีเรีย และป้องกันรังสี UV ด้วยสาร UV absorber 

ทั้งนี้แต่ละแบบก็จะแตกต่างกันในเรื่องของการใช้งาน เช่น ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน ชนิดเงา สำหรับภายนอก เหมาะสำหรับพื้นไม้ภายในที่มีแดดส่องบางเวลา และ ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน ชนิดเงา สำหรับภายใน เหมาะสำหรับการทาพื้นไม้ภายในที่ไม่มีแดดส่องถึง

โพลียูรีเทน เกรดพรีเมียม คุณภาพสูง

โพลียูรีเทน เกรดพรีเมียม คุณภาพสูง ของ TOA มี 2 แบบให้เลือกใช้ โดยจะแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์โพลียูรีเทน สำหรับงานภายนอก และโพลียูรีเทนสำหรับงานภายใน คุณสมบัติของโพลียูรีเทนเกรดพรีเมียม คุณภาพสูงนั้น จะมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV ด้วยสาร UV absorbe, ทนทานต่อแรงกระแทก การขูดขีด ทนต่อสารเคมี และความร้อนได้มากสุดถึง 60°C, เนื้อฟิล์มชนิดเงา มีความแข็งแกร่ง และเพิ่มความเงางาม, ไม่มีส่วนผสมของโลหะอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท

สำหรับชื่อของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโพลยูรีเทนเกรดพรีเทียม คุณภาพสูงทั้ง 2 แบบที่กล่าวมานั่นก็คือ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา เหมาะสำหรับภายนอก และ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา เหมาะสำหรับภายใน อายุการใช้งานสูงสุดประมาณ 10 ปี

โพลียูรีเทนแบบ 2 ส่วน

สำหรับโพลียูรีเทนแบบ 2 ส่วน จะเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด สวยงาม งานคุณภาพระดับมืออาชีพ ซึ่งแบบนี้จะเป็นที่นิยมในสายงานช่าง เพราะเนื้อฟิล์มจะมีความเงางาม เรียบกว่า ทนทานกว่า และแข็งแรงกว่า

ทีโอเอ โพลียูรีเทน ระบบ 2 ส่วน ชนิดเงา

ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา จะมีทั้งหมด 2 กระป๋อง ในส่วนของ Part A จะเป็น T-8100 และ Part B จะเป็น T-8111

ทีโอเอ โพลียูรีเทน ระบบ 2 ส่วน ชนิดกึ่งเงา

ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดกึ่งเงา จะมีทั้งหมด 2 กระป๋อง ในส่วนของ Part A จะเป็น T-8200 และ Part B จะเป็น T-8222 เนื้อฟิล์มเคลือบผิวไม้เป็นแบบกึ่งเงา เข้ากับการแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์

ทีโอเอ โพลียูรีเทน ระบบ 2 ส่วน ชนิดด้าน

ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดด้าน จะมีทั้งหมด 2 กระป๋อง ในส่วนของ Part A จะเป็น T-8800 และ Part B จะเป็น T-8888 ซึ่งเนื้อฟิล์มจะเป็นชนิดด้าน

ทีโอเอ โพลียูรีเทน 2K ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น มีความโดดเด่นในเรื่องของการแห้งตัวที่รวดเร็ว สามารถจบงานได้ไวกว่าการใช้โพลียูรีเทน 2K ทั่วไปถึง 4 เท่า มาพร้อมกับฟิล์มสีที่จะช่วยปกป้องพื้นผิวไม้ได้ยาวนานนับ 10 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งาน) ทนทานต่อการขูดขีด แรงกระแทก และสารเคมี

โพลียูรีเทนสูตรน้ำ

สำหรับโพลียูรีเทนสูตรน้ำ จะเหมาะสำหรับงานเคลือบพื้นไม้ภายในบ้าน เหมาะกับบ้านที่ซีเรียสเรื่องกลิ่น แต่ยังคงประสิทธิภาพในการปกป้องพื้นไม้ให้สวยงามและทนทานไม่แพ้สูตรน้ำมันที่ได้กล่าวไปข้างต้น

ทีโอเอ โพลียูรีเทน สูตรน้ำ ชนิดเงา สำหรับภายใน

ทีโอเอ โพลียูรีเทนสูตรน้ำ ชนิดเงา (1K) เป็นอะโรมาติกโพลียูรีเทน ดิสเพอร์ชัน 100% (pure PUD) มีคุณสมบัติแห้งไว ให้ฟิล์มสีที่มีความเงาสูง ยึดเกาะกับเนื้อไม้ได้ดีเยี่ยม ทนทานต่อการขัดถู การขูดขีด และแอลกอฮอล์ได้ดี ฟิล์มสีใส ช่วยให้ไม้มีสีอำพันอ่อนๆ ไม่ต่างจากโพลียูรีเทนสูตรน้ำมัน

ทีโอเอ โพลียูรีเทน สูตรน้ำ ชนิดด้าน สำหรับภายใน

ทีโอเอ โพลียูรีเทนสูตรน้ำ ชนิดด้าน เป็นอะโรมาติกโพลียูรีเทน ดิสเพอร์ชัน 100% (pure PUD) มีคุณสมบัติแห้งไว ให้ฟิล์มสีด้านดูเรียบเนียน ยึดเกาะกับเนื้อไม้ได้ดีเยี่ยม และมีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทานต่อการขัดถู การขูดขีดได้ดี ไม่ต่างจากโพลียูรีเทนสูตรน้ำมันเช่นกัน

ความแตกต่างระหว่างโพลียูรีเทน กับยูรีเทน

ในบริบทของงานไม้ "ยูรีเทน" ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เฉพาะ แต่เป็นคำที่กว้างๆ ที่ครอบคลุมถึง "โพลียูรีเทน" ไปด้วย เพื่อสื่อถึงสารเคลือบผิวไม้ชนิดหนึ่งที่มีทั้งในรูปแบบของสูตรน้ำมัน และสูตรน้ำ

ดังนั้น จะเรียก โพลียูรีเทน หรือ ยูรีแทน ความหมายในการใช้ในงานไม้ก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นเพื่อเคลือบพื้นผิวไม้เช่นเดียวกัน

โพลียูรีเทนกับสารเคลือบไม้อื่นๆ

โพลียูรีเทน นับว่าเป็นสารเคลือบไม้ที่เหมาะกับการทาพื้นไม้จริงมากที่สุด เนื่องจากโพลียูรีเทนมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของความทนทาน และสามารถช่วยปกป้องพื้นผิวไม้ไม่ให้น้ำสามารถซึมผ่านลงไปได้เป็นอย่างดี 

สำหรับสารเคลือบไม้ชนิดอื่นๆ ก็จะมีความแตกต่างที่เฉพาะแยกออกไป อย่างเช่น หากเคลือบน้ำมันเน้นใช้กับงานไม้ในเชิงศิลป์, แลคเกอร์ ใช้กับกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้ เคลือบแวกซ์เน้นงานไม้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนสี เป็นต้น

วิธีทาโพลียูรีเทนในแบบฉบับของ TOA

วิธีทาโพลียูรีเทนในฉบับของ TOA ที่จะเน้นทุกรายละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดพื้นผิวไม้จนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการเคลือบผิว ใครที่กล้าๆ กลัวๆ ว่าจะทำได้ไหม บอกเลยว่าไม่ต้องห่วงเพราะขั้นตอนนี้ละเอียดยิบและสามารถทำตามไปพร้อมกันๆ ได้เลย

1. ทำความสะอาดพื้นผิว

ต้องเริ่มจากทำความสะอาดพื้นผิวไม้ โดยใช้ผ้าเช็ดฝุ่นผงออก เอาคราบสกปรกออกก่อน ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำมัน คราบไข แวกซ์ ฯลฯ

2. อุดโป๊ว ขัดกระดาษทรายให้เรียบร้อย

ขัดไม้ด้วยกระดาษทรายขัดแห้ง ทีโอเอ เบอร์ 120-180 และอุดโป๊วที่ตัวไม้ เนื่องจากหน้าไม้ส่วนใหญ่จะยังมีเสี้ยน หรือยังไม่เรียบ จึงต้องขัดพื้นไม้ให้เรียบก่อน และพื้นผิวไม้จะต้องให้แห้งสนิท

3. ลงน้ำยารองพื้นและน้ำยารักษาเนื้อไม้

ลงน้ำยารักษาเนื้อไม้และลงรองพื้นไม้ เพื่อช่วยป้องกันเนื้อไม้จากปลวก มอด เชื้อรา โดยเริ่มจากการทารองพื้นด้วย ทีโอเอ น้ำยารักษาเนื้อไม้ก่อน 1 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 30 นาที แล้วค่อยลงทาทับอีกครั้ง จากนั้นให้ทารองพื้นด้วย TOA วูดไพรเมอร์ #T-2000 จำนวน 1 เที่ยว ช่วยเสริมการยึดเกาะระหว่างไม้กับฟิล์มสี ลดปัญหายางเปลี่ยนสี เนื่องจากยางไม้ ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนเริ่มขั้นตอนถัดไป

4. เคลือบด้วยโพลียูรีเทน

มาถึงขั้นตอนการเคลือบพื้นไม้ เราจะขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย เนื่องจากโพลียูรีเทนนั้นมีทั้งแบบ 1K (1 ส่วน) และ 2K (2 ส่วน)

การเคลือบแบบ 1K หรือโพลียูรีเทนแบบ 1 ส่วน

สำหรับใครที่เลือกใช้โพลียูรีเทน 1K ไม่ว่าจะเป็น ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน หรือ ทีโอเอ โพลียูรีเทน

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีดังนี้

• แปรงทาสี หรือเครื่องพ่น
• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 41
• กระดาษทราย ทีโอเอ ดีเอสซี เบอร์ 320 - 400

หลังจากเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว หากเลือกใช้ ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้

• ผสมซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน กับ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 41 โดยการทาเที่ยวที่ 1 แนะนำให้ผสม ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน 10 ส่วน ต่อทินเนอร์ 3 ส่วน
• เมื่อเที่ยวที่ 1 แห้งแล้ว การทาในเที่ยวที่ 2-3 และนำให้ผสมซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน 10 ส่วน ต่อทินเนอร์ 1 ส่วน (ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนทาทับเที่ยวต่อไป) 

หากเลือกใช้ ทีโอเอ โพลียูรีเทน

• ให้ผสม ทีโอเอ โพลียูรีเทน กับ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 41 โดยการทาเที่ยวที่ 1 แนะนำให้ผสม ทีโอเอ โพลียูรีเทน 10 ส่วน ต่อทินเนอร์ 4 ส่วน
• เมื่อเที่ยวที่ 1 แห้งแล้ว การทาในเที่ยวที่ 2-3 และนำให้ผสม ทีโอเอ โพลียูรีเทน 10 ส่วน ต่อทินเนอร์ 3 ส่วน (ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนทาทับเที่ยวต่อไป)

และไม่ว่าคุณจะเลือก ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน หรือ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ในการเคลือบแข็งพื้นไม้ก็ตาม ก่อนทาหรือพ่นทับหน้าเที่ยวต่อไป ให้ขัดแต่งพื้นผิวด้วยกระดาษทราย ทีโอเอ ดีเอสซี เบอร์ 320 – 400 เพื่อเพิ่มการยึดเกาะและได้พื้นผิวชิ้นงานที่เรียบเนียน​

การเคลือบแบบ 2 K หรือโพลียูรีเทนแบบ 2 ส่วน

ไม่ว่าจะ ทีโอเอ โพลียูรีเทน 2 ส่วน ชนิดเงา, กึ่งเงา หรือ ด้าน อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มีดังนี้

• แปรงทาสี หรือเครื่องพ่น
• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N
• กระดาษทราย ทีโอเอ ดีเอสซี เบอร์ 320 – 400

หลังจากเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้
หากเลือกใช้ ทีโอเอ โพลียูรีเทน 2 ส่วน ชนิดเงา​

• ให้ผสม T-8000 ส่วน A กับ T-8111 ส่วน B และ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N โดยการทาเที่ยวที่ 1 แนะนำให้ผสม T-8000 ส่วน A 5 ส่วน ต่อ T-8111 ส่วน B 5 ส่วน ต่อ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N 3 ส่วน
• เมื่อเที่ยวที่ 1 แห้งแล้ว การทาในเที่ยวที่ 2-3 และนำให้ผสม T-8000 ส่วน A 5 ส่วน ต่อ T-8111 ส่วน B 5 ส่วน ต่อ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N 2 ส่วน (ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนทาทับเที่ยวต่อไป)

หากเลือกใช้ ทีโอเอ โพลียูรีเทน 2 ส่วน ชนิดกึ่งเงา

• ให้ผสม T-8200 ส่วน A กับ T-8222 ส่วน B และ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N โดยการทาเที่ยวที่ 1 แนะนำให้ผสม T-8200 ส่วน A 5 ส่วน ต่อ T-8222 ส่วน B 5 ส่วน ต่อ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N 3 ส่วน
• เมื่อเที่ยวที่ 1 แห้งแล้ว การทาในเที่ยวที่ 2-3 และนำให้ผสม T-8200 ส่วน A 5 ส่วน ต่อ T-8222 ส่วน B 5 ส่วน ต่อ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N 2 ส่วน (ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนทาทับเที่ยวต่อไป)

หากเลือกใช้ ทีโอเอ โพลียูรีเทน 2 ส่วน ชนิดด้าน

• ให้ผสม T-8800 ส่วน A กับ T-8888 ส่วน B และ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N โดยการทาเที่ยวที่ 1 แนะนำให้ผสม T-8800 ส่วน A 5 ส่วน ต่อ T-8888 ส่วน B 3 ส่วน ต่อ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N 3 ส่วน
• เมื่อเที่ยวที่ 1 แห้งแล้ว การทาในเที่ยวที่ 2-3 และนำให้ผสม T-8800 ส่วน A 5 ส่วน ต่อ T-8888 ส่วน B 5 ส่วน ต่อ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ทินเนอร์ เบอร์ 43N 2 ส่วน (ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนทาทับเที่ยวต่อไป)

ไม่ว่าคุณจะเลือก ทีโอเอ โพลียูรีเทน 2 ส่วน ชนิดเงา, กึ่งเงา หรือ ด้าน ก่อนทาหรือพ่นทับหน้าเที่ยวต่อไป แนะนำให้ขัดแต่งพื้นผิวด้วยกระดาษทราย ทีโอเอ ดีเอสซี เบอร์ 320 – 400 เพื่อเพิ่มการยึดเกาะและได้พื้นผิวชิ้นงานที่เรียบเนียน

การทาโพลียูรีเทนดีต่อผิวไม้อย่างไร

การใช้โพลียูรีเทน มาเคลือบไม้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และควรทำมากๆ เพราะถ้าไม่มีการทาเคลือบโพลียูรีเทน และปล่อยให้ผิวไม้เผชิญกับแดด ฝน ลม ความชื้น หรือการเหยียบย้ำบ่อยๆ จะทำให้ไม้ผุพัง ปลวกขึ้น มีเชื้อรา เรียกได้ว่าส่งผลให้เนื้อไม้เสียหายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเคลือบโพลียูรีเทนจะทำให้เนื้อไม้มีความสวยงาม ป้องกันน้ำซึม ทนทานต่อการขูดขีด บอกได้เลยว่าประโยชน์ครบครัน ช่วยให้คุณมีพื้นไม้สวยๆ อย่างยาวนาน

การเก็บรักษาโพลียูรีเทนทำได้อย่างไร

สำหรับวิธีการเก็บรักษาโพลียูรีเทน หลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อย จำเป็นที่จะต้องมีการเก็บไว้ในที่ที่เหมาะสม เพื่อให้สารโพลียูรีเทนมีคุณสมบัติตามปกติ ไม่ได้เปลี่ยนหรือลดคุณภาพลงไป และยังเป็นสิ่งที่ต้องระวังในการเก็บรักษาเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

การเก็บรักษาโพลียูรีเทน 2K

• เมื่อมีการใช้โพลียูรีเทน จำเป็นจะต้องปิดผนึกให้ดี และให้อยู่ในถังหรือกระป๋องตามที่ควร เพื่อที่จะคงคุณภาพให้นานที่สุด
• การจัดเก็บต้องนำออกไปให้พ้นมือเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นที่บ้านควรมีห้องเก็บของหรือมีห้องเกี่ยวกับงานช่าง เพื่อที่จะนำมาเก็บหลังจากการใช้งานเสร็จทุกครั้ง
• การจัดเก็บจะต้องเก็บให้ห่างไกลจากความร้อน เปลวไฟ หรือโดนแสงแดดโดยตรง เพราะโพลียูรีเทน บางชนิดทำให้เกิดประกายไฟขึ้นมาได้
• เก็บให้ห่างจากสารออซิไดซ์ และสารเคมีที่มีความเป็นกรดหรือด่าง เพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยาและอาจเกิดความเสียหายได้
• ทำการขนย้ายอย่างระมัดระวัง โดยให้สิ่งที่บรรจุโพลียูรีเทน ตั้งตรงตลอดเวลา

การเก็บรักษาโพลียูรีเทน 1K

• เก็บรักษาโพลียูรีเทน 1K จะต้องทำตามบนฉลากให้ชัดเจน แนะนำว่าให้เก็บในที่เย็น หรืออากาศถ่ายเทได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าต้องวางให้ไกลจากอุปกรณ์ที่ทำให้ติดไฟได้ง่าย
• เก็บให้ห่างจากสารออซิไดซ์ และสารเคมีที่มีความเป็นกรดหรือด่าง เพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยาและอาจเกิดความเสียหายได้
• อุณหภูมิที่เหมาะสมในการจัดเก็บ คือ 25-30 องศาเซลเซียส และหลังจากใช้งานเสร็จต้องปิดให้สนิทเสมอ โดยให้สิ่งที่บรรจุโพลียูรีเทน ตั้งตรงตลอดเวลา

ทำไมถึงนิยมใช้โพลียูรีเทน

สำหรับการเลือกใช้โพลียูรีเทนในการเคลือบผิวหน้าไม้ นับว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง เพราะมีข้อดีหรือมีคุณสมบัติที่ยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี และบุคคลทั่วไปที่ศึกษามาอย่างดี ก็จะสามารถใช้โพลียูรีเทนบางชนิดในการเคลือบหน้าไม้ตามจุดต่างๆ ได้

ข้อดี

• โพลียูรีเทน นับว่าเป็นสารเคลือบชนิดหนึ่งที่สามารถใช้ได้หลายพื้นผิว ขึ้นอยู่กับการออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่าจะโฟกัสนำโพลียูรีเทนไปใ้ช้งานในลักษณะใด เช่น การเคลือบแข็งพื้นไม้ การใช้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับป้องกันน้ำรั่วซึม หรือนำไปผลิตเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างยาแนวรอยต่อ เช่น พียู ซีลแลนท์ เป็นต้น
• สำหรับสารเคลือบชนิดนี้จะช่วยยกระดับความแข็งแรงทนทานต่อสิ่งที่เคลือบ ยังช่วยซับแรงกระแทก และป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
• มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำซึมเข้าสู่พื้นผิว
• สามารถทนทานต่อน้ำมันได้เป็นอย่างดี

ข้อเสีย

• โพลียูรีเทน นับว่าเป็นสารเคลือบที่มีความไวไฟเป็นอย่างมาก แนะนำว่าในการใช้จะต้องหลีกเลี่ยงจุดที่ทำให้เกิดไฟได้ง่าย รวมทั้งอุปกรณ์ที่เป็นฉนวนก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

FAQ (คำถามที่พบบ่อย)

โพลียูรีเทน ใช้ทาอะไรได้บ้าง?

โพลียูรีเทน เป็นส่วนประกอบหลักในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้กับงานก่อสร้างหรืองานบ้าน เช่น โพลียูรีเทนสำหรับงานเคลือบแข็งพื้นไม้ ช่วยให้พื้นไม้ได้รับการปกป้องจากรอยขีดข่วน การเสียดสี และช่วยเพิ่มความเงางามให้กับพื้นไม้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โพลียูรีเทนยังเป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นกันซึมดาดฟ้า-หลังคา ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

โพลียูรีเทน ยี่ห้อไหนดี?

การเลือกโพลียูรีเทน แนะนำให้เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีสลากการใช้งานที่บรรจุภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทแน่นหนา และเลือกตามความเหมาะสมในการใช้งานของคุณ นอกจากนี้ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการใช้งานก่อสร้างหรืองานบ้านนั้น ได้มีการลดการใช้สารโลหะหนักที่มีอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารปรอท และสารตะกั่ว ดังนั้นอย่าลืมสังเกตเรื่องของสารโลหะหนักดังกล่าวด้วย เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของคุณ

โพลียูรีเทน มีกี่สูตร เลือกสูตรไหนดีให้เหมาะกับการใช้งาน?

หากนับรวมเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นโพลียูรีเทนสำหรับงานเคลือบแข็งพื้นไม้ ทีโอเอจะมีอยู่ทั้งหมด 9 ผลิตภัณฑ์ แบ่งแแกได้เป็น 3 สูตร ดังนี้

1. โพลียูรีเทน สูตรน้ำมัน แบบ 1K หรือ 1 ส่วน

ในสูตรนี้ ทีโอเอ มีผลิตภัณฑ์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์

• ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน ชนิดเงา สำหรับภายนอก เหมาะสำหรับพื้นไม้ภายในที่มีแดดส่องบางเวลา
• ซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน ชนิดเงา สำหรับภายใน เหมาะสำหรับการทาพื้นไม้ภายในที่ไม่มีแดดส่องถึง
  
  สำหรับซุปเปอร์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า โพลียูรีเทน จะอยู่ในผลิตภัณฑ์เกรดอัลตร้าพรีเมียม คุณภาพสูงสุด เป็นน้ำมันเคลือบแข็งพื้นไม้ สูตรป้องกันแบคทีเรียที่มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีจากเยอรมนีและอิตาลี จึงช่วยรักษาเนื้อไม้และป้องกันแบคทีเรียได้พร้อมๆ กัน อายุการใช้งานนานสูงสุดถึง 12 ปี เหมาะสำหรับทาเคลือบแข็งพื้นไม้ พื้นปาร์เก้ เฟอร์นิเจอร์ ลานสเก็ต รางโบว์ลิ่ง ฟลอร์ลีลาศ
• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา เหมาะสำหรับภายนอก เหมาะสำหรับพื้นไม้ภายในที่มีแดดส่องบางเวลา
• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา เหมาะสำหรับภายใน เหมาะสำหรับการทาพื้นไม้ภายในที่ไม่มีแดดส่องถึง
  
  สำหรับทีโอเอ โพลี ยูรีเทน จะเป็นน้ำมันเคลือบแข็งพื้นไม้เกรดพรีมียมคุณภาพสูง แห้งไวกว่าน้ำมันเคลือบแข็งพื้นไม้ทั่วไปถึง 2 เท่า มีอายุการใช้งานนานสูงสุดถึง 10 ปี เหมาะสำหรับทาเคลือบแข็งพื้นไม้ พื้นปาร์เก้ เฟอร์นิเจอร์ ลานสเก็ต รางโบว์ลิ่ง ฟลอร์ลีลาศ พื้นกีฬาในร่ม ฟอร์นิเจอร์ไม้ บันไดไม้ ราวบันได

2. โพลียูรีเทนแบบ 2K หรือแบบ 2 ส่วน
ในสูตรนี้ ทีโอเอ มีผลิตภัณฑ์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์

• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา ระบบ 2 ส่วน (TOA Polyurethane Gloss 2K)
• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดกึ่งเงา ระบบ 2 ส่วน (TOA Polyurethane Semi-Gloss 2K)
• ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดด้าน ระบบ 2 ส่วน (TOA Polyurethane Matt 2K)
  
  สำหรับโพลียูรีเทนแบบ 2K หรือแบบ 2 ส่วน จะมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี และยังสามารถแห้งได้ไว จบงานได้ภายใน 1วัน ปราศจากสารโลหะหนักอย่างสารปรอท และสารตะกั่ว เหมาะสำหรับงานเคลือบผิวไม้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น พื้นไม้ปาร์เก้ พื้นไม้ฟลอร์ลีลาศ รางโบว์ลิ่ง พื้นกีฬาในร่ม บันไดไม้ ราวบันได และเฟอร์นิเจอร์

3. โพลียูรีเทนสูตรน้ำ 1K หรือแบบ 1 ส่วน
ในสูตรนี้ ทีโอเอ มีผลิตภัณฑ์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ผลิตภัณฑ์

1. ทีโอเอ โพลียูรีเทน สูตรน้ำชนิดเงา สำหรับภายใน (TOA Polyurethane Waterborne Gloss for Interior)
2. ทีโอเอ โพลียูรีเทน สูตรน้ำชนิดด้าน สำหรับภายใน  (TOA Polyurethane Waterborne Matt for Interior)

ทีโอเอ โพลียูรีเทน สูตรน้ำ เหมาะสำหรับงานเคลือบแข็งพื้นไม้ภายใน เหมาะสำหรับบ้านที่ซีเรียสเรื่องกลิ่นฉุนในขณะทำงาน เพราะกลิ่นอ่อน โดยฟิล์มเคลือบแข้งพื้นไม้ที่ได้จะสามารถทนต่อแอลกอฮอล์ในน้ำยาทำความสะอาดได้มากถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับโพลียูรีเทนสูตรน้ำทั่วไป  เหมาะสำหรับงานเคลือบแข็งพื้นไม้ พื้นปาร์เก้ บันได ราวบันได และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการสีสันและโชว์ลายไม้ ใช้ได้กับไม้ทุกประเภท ทั้งไม้เก่าและไม้ใหม่

สรุป

สำหรับสารเคลือบไม้ โพลียูรีเทน นับเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ถนอม และถาวรรักษาพื้นผิวไม้ให้ยังคงความสวยงามได้ดีมากยิ่งขึ้นการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์โพลียูรีเทนของทีโอเอ คุณสามารถเลือกได้ทั้งแบบสูตรน้ำมัน ซึ่งเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็น โพลียูรีเทนแบบ 1K หรือ 2K ตามลักษณะการทำงาน หากทำเองก็อาจเลือกแบบ 1K เพราะการใช้งานจะง่ายกว่าแบบ 2K เล็กน้อย หรือหากซีเรียสเรื่องกลิ่น การเลือกโพลียูรีเทนสูตรน้ำ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ